เชียงใหม่ - “ไส้อั่วสะตอ” สูตรเด็ดเถ้าแก่เนี้ยร้านยางเชียงใหม่สร้างสรรค์เมนูอร่อยแปลกใหม่ ชูจุดเด่น “สิงห์เหนือปะทะเสือใต้” ผสมผสานรสชาติอาหารพื้นเมืองเหนือและอาหารปักษ์ใต้เข้ากันอย่างกลมกล่อมลงตัว พบลูกค้าชิมแล้วเป็นต้องติดใจจนสั่งซื้อเพียบ ตั้งเตาย่างขายร้อนๆ หน้าร้าน พร้อมขายออนไลน์จัดส่งทั่วประเทศ
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ที่ “ร้านนงพรรณไส้อั่ว” ที่เปิดเป็นร้านขายอาหารพื้นเมืองเหนือ พร้อมกับธุรกิจเดิมของครอบครัวที่เป็นร้านขายยางยนต์ ตั้งอยู่ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ขาเข้าเมืองเชียงใหม่ ก่อนถึงไฟแดงสี่แยกข่วงสิงห์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังระดับตำนานจากเมนูเด็ด “ไส้อั่วเห็ดถอบ” ที่ทำออกขายเพียงปีละครั้งเฉพาะช่วงฤดูเห็ดถอบเท่านั้นต่อเนื่องมาตลอด 6-7 ปีที่ผ่านมา พบว่าล่าสุดในช่วงนี้ที่หมดฤดูเห็ดถอบไปแล้ว ทางร้านได้พัฒนาคิดค้นและสร้างสรรค์ไส้อั่วสูตรเด็ดออกขายเอาใจนักชิมที่ชื่นชอบการรับประทานของอร่อยอีกครั้ง โดยนำ “สะตอ” วัตถุดิบขึ้นชื่อของอาหารปักษ์ใต้ มาใช้เป็นวัตถุดิบในทำอาหารเหนืออย่างไส้อั่ว ซึ่งสามารถผสมผสานวัตถุดิบและปรุงรสออกมาได้อย่างกลมกล่อมอร่อยลงตัว ลูกค้าหลายรายที่ได้ลิ้มลองแล้วต่างถูกปากจนต้องยกนิ้วให้
นางอนงพรรณ โฆษิตสกุลชัย อายุ 67 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ช่วงนี้สิ้นสุดฤดูเห็ดถอบแล้ว ทำให้ทางร้านไม่มีวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ทำไส้อั่วเห็ดถอบที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน เพราะทางร้านมีจุดยืนชัดเจนว่าจะใช้เห็ดถอบสดใหม่เท่านั้นเนื่องจากให้รสชาติอร่อยและคุณภาพดีกว่าการใช้เห็ดถอบต้มแช่แข็งหรือเห็ดถอบกระป๋อง โดยทางร้านยังคงทำไส้อั่วสูตรดั้งเดิมและอาหารพื้นเมืองต่างๆ ออกขายตามปกติ อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ส่วนตัวเป็นคนชื่นชอบการทำอาหารและทดลองสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ให้คนในครอบครัวรับประทาน เมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อน เพื่อนสนิทของลูกสาวที่เป็นชาวจังหวัดยะลาได้ส่ง “สะตอ” จากจังหวัดยะลามาให้ที่บ้านเป็นของฝาก ทางด้านลูกสาวได้มีแนวความคิดว่าน่าจะนำ “สะตอ” มาใช้ทำไส้อั่วได้
จากนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ทดลองทำ “ไส้อั่วสะตอ” ด้วยความตั้งใจว่าอยากให้ได้ไส้อั่วที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นอาหารพื้นเมืองเหนือ แต่ขณะเดียวกันให้รสชาติและกลิ่นอายของอาหารปักษ์ใต้ที่ผสมผสานกลมกลืนกันอย่างลงตัว พร้อมกับรสชาติอร่อยกลมกล่อม ซึ่งใช้เวลาในการคิดค้นส่วนผสมและปรับสูตรต่างๆ นานประมาณ 2 เดือน รับประทานกันในครอบครัว จนกระทั่งเริ่มลงตัวได้ทำแบ่งแจกจ่ายให้เพื่อนฝูงคนรู้จักและพนักงานในร้านยางนำไปรับประทานด้วย ซึ่งทุกคนต่างชื่นชอบและบอกว่ารสชาติอร่อยแปลกใหม่ รวมทั้งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างอาหารพื้นเมืองเหนือกับอาหารปักษ์ใต้ จึงเริ่มต้นทำออกวางขาย โดยสั่งซื้อสะตอคุณภาพดีส่งตรงจากจังหวัดยะลามาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต โดยทางร้านขนานนาม “ไส้อั่วสะตอ” ที่ทำขายว่า “สิงห์เหนือปะทะเสือใต้”
ส่วนขั้นตอนการทำนั้น เริ่มจากการนำสะตอล้างทำความสะอาด ทั้งผ่านการบดหยาบและหั่น ผสมเข้ากับเนื้อหมู, ใบมะกรูดสับ, ต้นหอมสับ และผักชีสับ รวมทั้งน้ำปรุงรสสูตรเฉพาะของทางร้าน และพริกแกงที่ปรุงพิเศษด้วยส่วนผสมของกะปิอย่างดีสำหรับการทำไส้อั่วสะตอโดยเฉพาะ จากนั้นทำการตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จแล้วจึงนำส่วนผสมที่ได้ออกมาทำการยัดใส่ไส้หมูแท้ทำเป็นไส้อั่ว ก่อนที่จะนำไปย่างเตาถ่านกะลามะพร้าวขายหน้าร้านและแพกสุญญากาศแช่เย็น ขายในราคากิโลกรัมละ 560 บาท ซึ่งหลังจากที่เริ่มทำออกขายปรากฏว่าผลตอบรับค่อนข้างดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าขาประจำดั้งเดิมที่ได้ชิมแล้วต่างชื่นชอบติดใจรสชาติแปลกใหม่และมีการสั่งซื้อแล้วจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน นางอนงพรรณบอกว่า นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูแนะนำอื่นๆ อีก ได้แก่ ไส้อั่วเห็ดหอมขาหมู, ไส้อั่วสูตรดั้งเดิม, ไส้อั่วสามเซียน (เห็ดสามอย่าง), ซี่โครงหมูย่าง, สันคอหมูย่าง, น้ำพริกหนุ่ม และน้ำพริกตาแดง รวมทั้งอีกหนึ่งเมนูอาหารเหนือใหม่สุดเด็ดที่อยากแนะนำ คือ แกงฮังเลมะม่วงหาวมะนาวโห่ขาหมูทั้งขา ที่ใช้มะม่วงหาวมะนาวโห่เป็นส่วนผสมเพิ่มรสชาติความอร่อยในเครื่องแกง และใช้เวลาเคี่ยวขาหมูนานกว่า 5 ชั่วโมง จนกระทั่งนุ่มแทบจะละลายในปาก ซึ่งอาหารต่างๆ นั้นลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ที่หน้าร้าน ที่แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งบริเวณหน้าร้านยางรถยนต์ที่เป็นธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัวตั้งเตาย่าง ทั้งแบบพร้อมรับประทาน และแบบที่แพกแช่เย็นไว้ รวมทั้งมีการโพสต์ขายทางเฟซบุ๊ก “นงพรรณไส้อั่วย่าง” ด้วย ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ทางร้านพร้อมจัดส่งให้ลูกค้าทั่วประเทศโดยคิดค่าส่งตามจริง
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 นั้น นางอนงพรรณบอกว่า นับตั้งแต่ที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ระลอกแรกถึงปัจจุบันเป็น 3-4 ระลอกแล้ว ส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านยางรถยนต์ที่เป็นธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัวอย่างหนัก จากปกติที่เคยมีลูกค้าและมีรายรับหลักแสนในแต่ละวันเพียงพอเป็นค่าใช้จ่ายต้นทุนต่างๆ และค่าจ้างพนักงาน ทุกวันนี้บางวันไม่มีรายรับเลยแม้แต่บาทเดียว แต่ที่ผ่านมาครอบครัวไม่คิดท้อถอยและยังดูแลจ่ายเงินเดือนพนักงานทุกคนในร้านกว่า 10 คนเหมือนเดิม เพราะเชื่อมั่นตลอดว่ายามยากหากคนเราไม่ท้อถอยแล้วย่อมมีทางออกเสมอ โดยในช่วงนี้ที่การทำไส้อั่วและอาหารพื้นเมืองยังพอมียอดขายสร้างรายได้เข้ามา จึงให้พนักงานจากร้านยางมาช่วยงานในส่วนนี้แทนไปก่อน ซึ่งก็พอประคับประคองกันไปได้ และอย่างน้อยก็มีอาหารให้กินทุกมื้อแน่นอน ทั้งนี้ ในสถานการณ์ปัจจุบันมองว่าแต่ละคนต่างประสบปัญหาเหมือนกันหมด จึงอยากขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนยืนหยัดผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันให้ได้