xs
xsm
sm
md
lg

บุรีรัมย์เร่งสกัด! คลัสเตอร์วงเคี้ยวหมาก แพร่เชื้อโควิดแล้ว 15 ราย เสี่ยงสูงกว่า 100 สั่งปิดหมู่บ้าน 14 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์- อ.พลับพลาชัย บุรีรัมย์เร่งสกัด คลัสเตอร์วงเคี้ยวหมาก ยายวัย 75 ปกปิดข้อมูลลูกหลานกลับจากกทม. และไม่ยอมกักตัว ก่อนยายไปจับกลุ่มเคี้ยวหมากและเดินพบปะพูดคุยคนในงานศพ ทำชาวบ้าน ผญบ. และเด็กติดโควิดแล้ว 15 คน เสี่ยงสูงกว่า 100 ราย สั่งล็อกดาวน์หมู่บ้าน 14 วัน เร่งควบคุมโรค

วันนี้ (19 ส.ค.) นายมานพ จูประโคน นายกเทศมนตรีตำบลโคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายวินัย เกียรติกำจร ปลัดเทศบาลตำบลโควิดขมิ้น , นางลักขณา แก้วสอน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคกขมิ้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจบ้านโคกบัว ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย


หลังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ มีคำสั่งกำหนดพื้นที่ควบคุมหรือปิดหมู่บ้านโคกบัว เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 – 28 สิงหาคม สืบเนื่องจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถึง 15 คน จากกรณีที่ยายวัย 75 ปี ปกปิดข้อมูลลูกหลานที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร แล้วไม่ยอมกักตัวตามมาตรการควบคุมป้องกันเชื้อ

จากนั้นคุณยายไปร่วมงานศพคนในหมู่บ้านทั้งมีการจับกลุ่มตำหมาก เคี้ยวหมาก เดินพูดคุย พบปะคนในงานศพไปทั่ว จนทำให้เกิดการแพร่เชื้อทั้งชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้านที่ไปดูแลในงานศพ รวมถึงเด็กอายุ 3 – 10 ขวบก็ติดเชื้อด้วย รวม 15 คน ซึ่งทั้งหมดถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว นอกจากนี้ยังพบกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงอีก 119 คน และกลุ่มเสี่ยงต่ำอีก 159 คน แต่จากการตรวจหาเชื้อในเบื้องต้นยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมแต่อย่างใด


นางลักขณา แก้วสอน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.สต.โคกขมิ้น ระบุถึงที่มาของคลัสเตอร์กลุ่มนี้ว่า เกิดจากคุณยายซึ่งปกปิดข้อมูลของลูกสาวและลูกเขยที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ โดยแจ้ง อสม.ว่าลูกสาวมาจากอำเภอละหานทราย อสม.จึงให้ครอบครัวนี้กักตัวเพียง 7 วันตามมาตรการของศูนย์ควบคุมป้องกันเชื้อในพื้นที่ คือ ระว่างวันที่ 2 – 7 สิงหาคม ครบกำหนดจึงปล่อยตัวในวันที่ 8 สิงหาคม หลังปล่อยตัว ในหมู่บ้านบ้านมีงานศพคุณยายก็ไปร่วมงาน โดยได้มีการจับกลุ่มตำหมาก เคี้ยวหมากพบปะพูดคุยกับผู้สูงอายุในงานและจากที่มีฐานะยากจนคุณยายมักเดินไปในหลายพื้นที่ของหมู่บ้านรวมถึงหมู่บ้านอื่นเพื่อขออาหาร

หลังลูกสาวและลูกเขยกลับกรุงเทพฯ ได้แจ้งให้ทราบว่าติดเชื้อโควิด-19 อสม.ในหมู่บ้านจึงไปซักไซ้ไล่เรียงจนคุณยายยอมรับว่าลูกสาวมาจากกรุงเทพฯ จึงส่งคุณยายและลูก 2 คนไปตรวจ ผลคุณยายกับลูกชายติดเชื้อโควิด-19 ส่วนลูกสาวไม่ติดเชื้อ รพ.สต.โคกขมิ้น จึงออกสอบสวนโรค พร้อมส่งผู้ใกล้ชิดซึ่งเป็นผู้เสี่ยงสูงจำนวน 15 คนไปตรวจพบติดเชื้อ 8 คน หนึ่งในนั้นผู้ เป็นผู้ใหญ่บ้านด้วย จึงระดมตรวจ PCR ในกลุ่มเสียงสูง 119 คน พบติดเชื้อในพื้นที่ 15 คน ติดเชื้อต่างพื้นที่ 1 คน ตรวจ Rapid Test จำนวน 159 คนไม่พบติดเชื้อเพิ่ม


จากกรณีที่เกิดขึ้นจะเห็นว่าจากที่คุณยายไม่บอกข้อมูลความเป็นจริงกับทางเจ้าหน้าที่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจหรือมีเจตนาจะปกปิดข้อมูลตาม แต่ทำให้เกิดคลัสเตอร์มีผู้ติดเชื้อมากถึง 15 ราย เสี่ยงสัมผัสอีกจำนวนมาก ทั้งยังส่งผลให้ต้องปิดหมู่บ้านอีกด้วย ก็อยากฝากถึงประชาชนให้มองว่าโควิดเป็นเรื่องใกล้ตัว ไม่ใช่เรื่องไกลตัวดังนั้นทุกคนจะต้องให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามมาตรการของทางภาครัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเป็นวงกว้างอย่างเช่นในหลายๆ เคส


ด้าน นายมานพ จูประโคน นายกเทศมนตรีตำบลโคกขมิ้น กล่าวว่า ในช่วงที่ปิดหมู่บ้านทางเทศบาลฯ ได้ร่วมกับ อบจ.บุรีรัมย์ นำถุงยังชีพมามอบให้กับประชาชนในหมู่บ้านที่ต้องกักตัว เพราะประชากรในหมู่บ้านโคกวัดส่วนใหญ่จะมีฐานะยากจนประกอบอาชีพเกษตรกรทำนา ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์เป็นหลัก และส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงด้วย จึงต้องการความช่วยเหลือค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ขณะนี้มีหลายภาคส่วนทยอยนำสิ่งของมามอบอย่างต่อเนื่อง แต่หากภาคเอกชน หรือผู้ที่พอมีกำลังอยากจะช่วยเหลือชาวบ้านในหมู่บ้านช่วงที่ปิดหมู่บ้าน สามารถนำสิ่งของมามอบได้ที่ด่านเข้า-ออก หมู่บ้าน เทศบาล หรือที่ว่าการอำเภอได้ตลอดเวลา








กำลังโหลดความคิดเห็น