สระบุรี - พ่อขอความเห็นใจวอน รพ.อย่าเงียบ ลูกชายป่วยติดเตียงเข้ารักษาโรคลมชักที่ รพ.หนองแค อยู่ 20 วันจึงทราบว่าติดโควิด-19 อาการโคม่า และอีก 5 วันเสียชีวิต ทั้งที่ห้ามเยี่ยมไม่ได้เจอใคร ด้านโรงพยาบาลแจงมีคนไข้ติดโควิด-19 แต่ปกปิดข้อมูล ทำให้แพร่เชื้อมาติด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Apichart Aumnuykul ได้เขียนลงข้อความใต้โพสต์ของกู้ภัย ติดแฮชแท็ก #ผู้เสียชีวิตโควิด-19 ว่า "ลูกผมอายุ 21 ปี เป็นเด็กพิการติดเตียงตั้งแต่กำเนิด เข้ารักษาตัวด้วยอาการชักเกร็ง พอตรวจเลือดพบว่าเลือดหนืดและเริ่มติดเชื้อในเลือด เข้ารักษาตัว 27 มิ.ย. ผมได้เฝ้าไข้ลูกผมจนถึงวันที่ 3 ก.ค. หลังจากนั้น สั่งงดเฝ้าไข้น้อง รพ.อ้างว่าเดี๋ยวเชื้อโรคจะไปติดน้อง รักษามาได้จนถึงวันที่ 14 ก.ค. พยาบาลแจ้งว่าน้องมีไข้ยังกลับไม่ได้ พอวันที่ 15 ก.ค. พยาบาลโทรมาแจ้งว่าให้ทางบ้านหาถังออกซิเจนกับสายดูดน้ำลายน้อง ถ้าจะเอาน้องกลับบ้าน ผมก็หามาได้ 1 ถัง ****แต่สุดพีก คืนวันที่16 ก.ค. คุณหมอเจ้าของไข้น้องโทรมาบอกว่า คุณพ่อตอนนี้น้องอาการโคม่าแล้ว น้องติดเชื้อโควิด-19 เชื้อลงปอดเป็นฝ้าแล้ว คนเป็นพ่อหัวอกแทบแตกสลาย โดยหมอพูดกับผมว่าน้องอยู่ได้อีกไม่เกิน 5 วัน เชื้อมาจากไหน ติดตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่มีการตรวจน้องตั้งแต่ 7 วันก่อนหน้า ทั้งๆ ที่นอนอยู่ตรงนั้นเกือบเดือน สุดท้ายวันที่ 20 ก.ค.น้องก็เสียชีวิต"
ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปที่บ้านของ นายอภิชาติ อำนวยกุล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142/4 ตำบลหนองแค อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี พ่อของนายภานุพงษ์ อำนวยกุล อายุ 21 ปี หรือน้องเอิท กล่าวว่า เปิดเฟซบุ๊กมาแล้ว พบโพสต์ของกู้ภัยวันที่ตรงกับวันที่น้องเอิทเสียชีวิตพอดี น่าจะเป็นลูกของตนเอง มันยังเกิดความสะเทือนใจก็เลยเสดงความคิดเห็นต่อท้ายไป ตนเองยังคาใจอยู่ว่าลูกผมนอนรักษาอยู่เกือบ 2 อาทิตย์ ไม่มีการตรวจหาโควิด-19 แต่อยู่ๆ โควิดมาหาลูกตนเองทั้งๆ ที่ลูกเป็นแค่ลมชัก
ปกติรักษาแค่ 7 วัน น้องเอิทก็ได้กลับบ้านแล้ว แต่ครั้งนี้อยู่นานกว่าปกติ แล้วโทร.มาแจ้งว่า น้องโคม่า ปอดเป็นฝ้าหมดแล้ว เนื่องจากติดโควิด-19 ตนเองเลยอยากรู้ว่าโรงพยาบาลเอาเชื้อมากจากไหน ทำไมน้องถึงไปติดในนั้นทั้งๆ ที่ไม่ให้เยี่ยม งดเยี่ยมหมดทุกอย่าง อยากขอคำตอบ ซึ่งทางโรงพยาบาลบ่ายเบี่ยงมาตลอด หลังจากที่น้องเอิทเสียชีวิตไปแล้ว ทางโรงพยาบาลได้มาเยี่ยมวันที่ 20 ก.ค.แล้วส่งเงินให้ 2,000 บาท เป็นค่ารถ พร้อมพูดว่าวันที่น้องเอิทตาย มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ ถุงซิป 9,000 บาท และโลงศพอีก 3,000 บาท โรงพยาบาลต้องรับผิดชอบ ตนเองได้พยายามถาม สุดท้ายเพิ่งมาสรุปให้ฟังว่าในวันที่ 20 ก.ค.มีคนไข้ปกปิดข้อมูลว่าตัวเองมีเชื้อโควิด-19 เลยทำให้เชื้อมาสู่ลูกตนเอง ขอดูหลักฐานข้อมูลก็ไม่บอก
ได้แต่บอกว่าเป็นความลับ
"โรคของน้องเอิท ที่เป็นอยู่เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ไม่คิดว่าน้องเอิท จะมาเจอโควิดซ้ำเข้าไปอีก ทั้งๆ ที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลไม่ได้ติดมาจากบ้านเลย นอนเกือบ 20 วัน กว่าโรงพยาบาลจะรู้อีกที่ก็โคม่าไปแล้ว ทำใจไม่ได้จริงๆ พอติดต่อกลับไปที่โรงพยาบาล แจ้งว่ากำลังรอทำเรื่อง ซึ่งผ่านมาเป็นเดือนแล้วยังเงียบอยู่ อยากฝากบอกว่า การเข้ารักษาของคนไข้แต่ละคน ทางโรงพยาบาลน่าจะเข้มงวดกว่านี้ อย่าให้เกิดความสูญเสียกับใครอีกเลย มันสูญเสียมากจริงๆ ทั้งความรู้สึก ทั้งสภาพจิตใจ"
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่โรงพยาบาลหนองแค จ.สระบุรี เพื่อขอทราบรายละเอียดเรื่องของนายอภิชาติ อำนวยกุล พ่อของนายภานุพงษ์ อำนวยกุล หรือน้องเอิท โดยทางเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลได้รับสายและแจ้งว่าขอไม่ให้บันทึกเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ส่วนทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลติดภารกิจ