xs
xsm
sm
md
lg

คาเฟ่หมาเชียงใหม่สุดต้านพิษโควิด-19 จำใจเลิกกิจการพร้อมประกาศหาบ้านใหม่ให้ลูกรัก 18 ตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - คาเฟ่น้องหมาเชียงใหม่สุดต้านวิกฤตโควิด-19 แบกรับภาระขาดทุนเดือนละแสนต่อเนื่องเกือบ 2 ปี ประกาศเลิกกิจการสิ้นเดือน ส.ค. 64 พร้อมหาผู้รับอุปการะเลี้ยงดูสุนัขน่ารัก 18 ตัว โดยมีเงื่อนไขต้องมีความพร้อมและดูแลได้อย่างดีที่สุด พบคนแห่เสนอตัวกว่า 3,000 รายแล้ว รอพิจารณาอย่างละเอียดและประกาศผล 15 ส.ค. 64


จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้ร้าน “สไมล์ด็อก คาเฟ่” (Smile Dog Cafe) ซึ่งเป็นคาเฟ่สำหรับคนรักสุนัข ที่เปิดให้บริการเครื่องดื่มและของกินเล่น พร้อมกับเล่นกับสุนัข ตั้งอยู่บนถนนเชียงใหม่-สันกำแพง (สายเก่า) ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ประกาศปิดกิจการในช่วงสิ้นเดือน ส.ค. 64 เนื่องจากแบกรับภาระค่าใช้จ่ายและภาวะขาดทุนเดือนละประมาณ 1 แสนบาทต่อไปไม่ไหวแล้ว พร้อมประกาศหาผู้รับอุปการะสุนัขน่ารักสายพันธุ์ต่างๆ จำนวน 18 ตัวของร้านนำไปเลี้ยงดูอย่างดีต่อไป


นางสาววรรณลักษณ์ บุญศรีโรจน์ อายุ 28 ปี เจ้าของสไมล์ด็อก คาเฟ่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดระบาดต่อเนื่องมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทางร้านประสบปัญหาขาดทุนทุกเดือน ซึ่งแต่ละเดือนต้องควักเงินส่วนตัว 70,000-100,000 บาท เพื่อใช้จ่ายเลี้ยงดูสุนัขของร้านที่มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 30 ตัว 

ที่ผ่านมานำเงินที่ได้จากการทำธุรกิจอื่นและเงินส่วนตัวออกมาใช้ไปแล้วประมาณ 2 ล้านบาท จนกระทั่งเกือบหมดและไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายได้แล้ว จึงตัดสินใจที่จะปิดกิจการลงในสิ้นเดือน ส.ค. 64 นี้ พร้อมหาผู้รับอุปการะนำสุนัขส่วนหนึ่งของทางร้านจำนวน 18 ตัวไปเลี้ยงดูต่อ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งตัวเองยังเลี้ยงดูเองต่อไป


โดยนับตั้งแต่ที่ประกาศผ่านเพจของร้าน มีผู้ที่แสดงความประสงค์และมาลงทะเบียนแล้วกว่า 3,000 ราย เพื่อขอรับสุนัขไปอุปการะ ซึ่งมีทั้งคนเชียงใหม่และจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่า ผู้ที่จะอุปการะต้องมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง รั้วรอบขอบชิด มีพื้นที่ให้น้องหมาได้วิ่งเล่น, ต้องมีจิตใจรักหมา ไม่ทอดทิ้ง ต้องเลี้ยงดูตลอดชีวิต, ไม่ให้ฟาร์มเอาไปเพาะขยายพันธุ์ต่อ และที่สำคัญคือต้องมีเงินในการเลี้ยงดูทั้งยามปกติและยามเจ็บป่วย หากไม่ได้ก็ขอร้องอย่าเอาไปเป็นภาระ นอกจากนี้จะต้องส่งความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของสุนัขให้ทางร้านทราบเดือนละครั้งเป็นเวลา 6 เดือน และต้องวางเงินมัดจำไว้ให้จำนวนหนึ่งด้วย เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถดูแลได้ โดยเงินมัดจำ หากทำได้ตามเงื่อนไขครบจะคืนให้ทั้งหมด


อย่างไรก็ตาม การจะตัดสินใจว่าจะมอบสุนัขแต่ละตัวให้ผู้ใดรับไปอุปการะต่อนั้น ทางร้านมีการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ อย่างละเอียดและจะพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุด เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสุนัขทั้ง 18 ตัว โดยจะพิจารณาผู้รักสุนัขที่มีความพร้อมและเหมาะสมที่สุด ทั้งด้านสถานที่และด้านการเงิน ในการดูแลให้สุนัขทุกตัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีที่สุดและไม่ด้อยไปกว่าที่ทางร้านดูแลฟูมฟักอย่างดีเหมือนเป็นลูกมาตลอด ทั้งนี้ จะพิจารณาคนที่อยู่ในพื้นที่เชียงใหม่ก่อนเป็นลำดับแรก และจะมีการประกาศผลการพิจารณาในวันที่ 15 ส.ค. 64 แต่จะให้มารับสุนัขได้ในช่วงสิ้นเดือน ส.ค. 64 หลังปิดร้านแล้ว










กำลังโหลดความคิดเห็น