xs
xsm
sm
md
lg

ครอบครัวติดโควิด-19 จำนวน 13 คน ควงทนายยื่นหนังสือร้องเจ้าหน้าที่รัฐ หลังถูกจัดฉากให้ขอโทษพ่อเมืองออกสื่อทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครปฐม - เซียนพระชาวนครปฐม ครอบครัวติดโควิด-19 ทั้งบ้าน 13 คน พร้อมทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ เผยเคยขอความช่วยเหลือ แต่เจ้าหน้าที่เชิญไปชี้แจงการทำงานและให้อัดคลิปขอบคุณผู้ว่าฯ วอนอย่าทำอย่างนี้กับชาวบ้านอีกเพราะจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตได้อย่างแท้จริง
วันนี้ (9 ส.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดนครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม นายพีรพล อุรารักษ์ อายุ 50 ปี เซียนพระนครปฐม พร้อมด้วย นายคงกฤติ ศิริรณรงค์ ทนายความ ได้เดินทางเข้ามาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครปฐม เพื่อเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของ นางวรรณกานต์ ขาวลาภ ในฐานะหัวหน้ากองบรรณาธิการข่าว ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารจังหวัดนครปฐม หลังเกิดกรณีที่นายพีรพล ได้เคยร้องต่อสื่อมวลชนว่า คนในครอบครัวมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งหมด จำนวน 13 คน ซึ่งมีบางส่วนได้รับการนำไปรักษาที่โรงพยาบาลนครปฐม และโรงพยาบาลสนามแล้ว แต่ยังมีคนในบ้านที่ไปตรวจพบว่าติดเชื้ออีก 3 คน ยังไม่ได้รับการเข้ามาตรวจโดยหวั่นจะมีคนเสียชีวิตในบ้าน

หลังมีการเผยแพร่ข่าวเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ประสานให้เข้าพบกับนางวรรณกานต์ ซึ่งได้มีการชี้แจงการทำงาน แต่หลังจากนั้นได้มีการให้ถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ เขียนบทความเพื่อให้ขอโทษและขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และข้าราชการชั้นสูงจากนั้นได้นำเสนอเป็นข่าวออนไลน์ ซึ่งทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงและเข้าใจผิดในสังคมว่าตนเองเข้าใจผิดทั้งที่มีหน่วยงานมาดูแลเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว แต่กลับมาร้องสื่อเพื่อเป็นข่าว

นายพีรพล กล่าวว่า เรื่องเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งพี่ชายคนโตได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นคนแรก และต่อมามีคนที่ติดเชื้อในบ้านรวม 13 คน ที่ตนเองได้มายื่นหนังสือร้องเรียนในวันนี้ เพราะช่วงวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนเองได้ร้องผ่านสื่อมวลชนว่ามีคนในบ้านที่อาศัยอยู่รวมกัน เป็นผู้สูงอายุและเด็กโดยมีบางคนได้รับการนำไปรักษาตัวแล้ว แต่ยังเหลืออีก 3 คนที่ยังไม่มีใครเข้ามาตรวจสอบ และหวั่นว่าจะไม่มีใครมาดูแล เพราะก่อนจะร้องสื่อได้มีผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่เข้ามา แต่กลับโวยวายหาว่าที่บ้านตนเองไปแจ้งต้นสังกัดให้มาตรวจสอบ ทำให้ถูกผู้บังคับบัญชาตำหนิมา ซึ่งจุดประสงค์อยากให้มาช่วยเหลือที่บ้านเท่านั้น เพราะกลัวว่าจะมีคนเสียชีวิต ซึ่งระหว่างรอรับการช่วยเหลือมีผู้ใหญ่บ้าน และอบต.ในพื้นที่เข้ามาประสานงานให้ รวมถึงมีเพื่อนบ้านหาอาหารมาส่งให้เท่านั้น

นายพีรพล กล่าวต่อว่า ก่อนที่ตนเองจะร้องผ่านสื่อว่ามีคนตกค้างที่ติดเชื้อนอนอยู่ในบ้านพัก 3 คน ได้ทำการแจ้งไปยังศูนย์โควิด-19 ของอำเภอเมืองนครปฐมตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค. แต่จนถึงวันที่ 31 ก.ค. ไม่มีใครมาช่วยดูแล จึงขอร้องให้สื่อเข้ามาช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ด้วย โดยมีข่าวปรากฏในวันนั้น ซึ่งมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาดูที่บ้านพัก และคิดว่าเรื่องถึงหน่วยงานผ่านสื่อไปแล้วน่าจะจบและได้รับการช่วยเหลือแล้ว แต่จากนั้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ตนเองได้รับการประสานงานเพื่อไปรับฟังคำชี้แจง โดยบอกว่าให้ไปที่ศาลากลางจังหวัดนครปฐม

โดยได้ไปพบกับ นางวรรณกานต์ ขาวลาภ แรงงานจังหวัดนครปฐม หัวหน้ากองบรรณาธิการข่าว ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารจังหวัดนครปฐม ซึ่งได้บอกว่ารับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ให้มาชี้แจงการทำงานของจังหวัดนครปฐมโดยได้ขึ้นไปพบกันที่ "ห้องศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารจังหวัดนครปฐม ศาลากลางจังหวัดนครปฐม" ซึ่งขณะนั้นยังงงว่าทำไมถึงมีการเรียกตนเองเข้าไปเพื่อชี้แจงเรื่องดังกล่าว เพราะเรื่องน่าจะถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งหมดแล้ว คงเหลือเพียงดูอาการคนทั้ง 3 คนที่ยังนอนป่วยอยู่ในบ้านพัก

เมื่อไปถึงตนเองคิดว่าจะมีการชี้แจงขั้นตอนการทำงานให้ตนเองเข้าใจว่าทางจังหวัดนครปฐมมีกระบวนการในการดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างไรเท่านั้น แต่ในช่วงที่มีการพูดคุย นางวรรณกานต์ มีการพูดว่าตนเองจะไปออกข่าวกับสื่อแบบนั้นไม่ได้ เพราะผู้ว่าฯ เดือดร้อน เนื่องจากมีผู้ใหญ่ตำหนิมาว่าจังหวัดนครปฐม ปล่อยปละละเลยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และอ้างว่าจะมีผู้ใหญ่ 2 คนเข้ามาเจรจาแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ ด้วยความเกรงใจและอึดอัดใจ จึงได้ยอมพูดขอโทษ กลับคำจากที่เคยร้องผ่านสื่อไปครั้งแรกทั้งที่ใจไม่ได้อยากจะพูด

ซึ่งนางวรรณกานต์ ได้มีการให้ถ่ายภาพ และบันทึกวิดีโอให้ตนเองพูดตามบทที่เขาเขียนใส่กระดาษมาให้ เพื่อขอโทษผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และหน่วยงานที่ถูกพาดพิง ว่าตนเองเข้าใจคลาดเคลื่อน แต่ในใจก็ยังคิดว่าตนเองผิดอะไรที่ต้องมาขอโทษ เพราะที่ตนเองร้องสื่อให้นำเสนอไปครั้งแรกนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด และไม่ได้มีการตำหนิผู้ว่าฯ หรือหน่วยงานอื่น มีความประสงค์ที่จะร้องเรียนพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลดอนยายหอมเท่านั้น และคิดว่าจะมีการบันทึกเทป เพื่อนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมเท่านั้น ไม่ได้ออกเป็นข่าวตามสื่อแต่อย่างใด

นายพีรพล กล่าวต่อว่า วันนี้ที่ตนเองเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนและให้ตรวจสอบคือ หลังจากวันที่ 2 ส.ค. ที่ตนเองได้เข้ามารับฟังการชี้แจง แต่วันที่ 3 ส.ค. กลับปรากฏว่ามี สื่อออนไลน์ได้ขึ้นข่าวพาดหัวว่า “ชาวบ้านขอโทษ ผวจ.นครปฐม หลังปล่อยข่าวพาดพิงไม่ช่วย 13 ชีวิตเหยื่อโควิด” ซึ่งเมื่อตนเองเห็นข่าวก็ตกใจมีหลายคนมาถามว่า ตกลงเรื่องจริงเป็นอย่างไร มีหลายคนคิดว่าตนเองเป็นคนโกหก จึงได้ขอเข้าร้องเรียนเพื่อให้มีการตรวจสอบการทำงานของบุคคลดังกล่าว เพราะไม่ทราบจุดประสงค์ของการจัดฉากให้ตนเองต้องมานั่งพูดขอโทษผ่านสื่อ และตนเองเสื่อมเสียและไม่คิดว่าจะถูกเอาข้อมูลไปบิดเบือนจนคนที่อ่านข่าวเข้าใจผิด

ซึ่งหลังจากปรากฏภาพที่ตนเองไปนั่งฟังคำชี้แจงเป็นข่าวก็ได้ตนเองได้โทร.ไปหา นางวรรณกานต์ เพื่อจะสอบถามหาความจริง แต่ได้ให้คำตอบว่าให้ไปถามที่ข้าราชการระดับสูงคนหนึ่งที่เป็นคนให้ข่าว โดยนางวรรณกานต์ บอกว่าป่วยอยู่กำลังอยู่โรงพยาบาล เมื่อโทร.มาที่ศูนย์ราชการเพื่อสอบถามมีคนบอกว่ายังเห็นอยู่ที่สำนักงาน จึงเป็นที่มาของการออกมาร้องเรียนในเรื่องนี้ เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมมีการตรวจสอบการทำงาน

นายพีรพล กล่าวอีกว่า วันนี้หน่วยงานราชการที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านควรจะนำข้อมูลมาแก้ไข ไม่ใช่ออกมาแก้ข่าว เพราะประโยชน์มันจะไม่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงและขอวอนว่าเรื่องนี้อยากให้มีการตรวจสอบข้อมูล อย่างตรงไปตรงมา จะเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องการช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้มให้เกิดเป็นรูปธรรม และการทำแบบนี้ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ให้ตนไปขอโทษออกสื่อและทิ้งเรื่องเอาไว้ให้ตนเองเป็นแพะของสังคม ซึ่งหากการร้องเรียนครั้งนี้ไม่มีคำตอบหรือเงียบไปจะไปร้องยังหน่วยงานที่สูงขึ้นต่อไป และขออย่าให้มีข้าราชการหรือผู้มีอำนาจมากดดันตนเองหรือคนในบ้านอีก เพราะจะทำให้ไม่สามารถเข้าถึงปัญหาและแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านในวิกฤตนี้อย่างชัดเจน


กำลังโหลดความคิดเห็น