นครสวรรค์ - เปิดใจนายก อบต.ลาดยาวอาสาขับรถรับผู้ป่วยโควิดกลับบ้านเกิดด้วยตัวเอง วิ่งรถรับคนป่วยจากกรุงเทพฯ-นครสวรรค์เกือบทุกวัน บอกเห็นแล้วสงสารจับใจ ลูกหลานชาวบ้านติดเชื้อไม่มีที่รักษา พ่อแม่บากหน้ามาขอให้ช่วย
หลังจากผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นจนล้นโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล แต่ไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ด้วยตนเองเป็นจำนวนมาก ล่าสุดพบว่านายกองค์การบริหารส่วนตำบลลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ขับรถยนต์กระบะบรรทุกผู้ป่วยโควิด-19 จากกรุงเทพมหานครมาส่งตรวจ RT-PCR บริเวณสนามกีฬากลางฯ นครสวรรค์ ก่อนส่งเข้ารักษาตามระบบของกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ต่อไป
นายประสิทธิ์ หยัดน้ำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลลาดยาว จ.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า ก่อนที่ตนจะมาทำหน้าที่รับส่งผู้ป่วยนั้น ได้มีชาวบ้านในพื้นที่มาร้องขอความช่วยเหลือว่าลูกหลานที่อยู่ในกรุงเทพมหานครป่วยด้วยโรคโควิด-19 อยากกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิดแต่กลับมาไม่ได้ ต้องการให้ตนเองช่วยเหลือไปรับกลับ ซึ่งตนก็ไปรับกลับมา
หลังจากนั้นก็มีคนมาร้องขอความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ตนต้องขับรถไปรับคนป่วยกลับมาในพื้นที่เกือบทุกวัน ล่าสุดได้รับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 กลับมายังอำเภอลาดยาวและใกล้เคียงแล้ว 22 ราย และยังมีโทรศัพท์ประสานให้ไปรับกลับอีกหลายราย ซึ่งหลังจากนี้ตนจะต้องนัดแนะเวลาและสถานที่กับผู้ป่วยที่จะไปรับกลับอีกครั้ง
“ส่วนมากจะเป็นพ่อแม่ที่มาขอให้ไปรับลูกที่ติดโควิดอยู่กรุงเทพฯ กลับมาไม่ได้ เราเห็นแล้วน่าสงสารมากเพราะไม่มีที่รักษา ก็ตัดสินใจไปรับ ตอนแรกก็กลัวเหมือนกัน แต่พอทำแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร คนที่น่ากลัวกว่าเราคือหมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ที่เขาต้องอยู่กับผู้ป่วยตลอดเวลามากกว่า”
โดยจะขับรถไปรับผู้ป่วยไปกลับคนเดียว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ใน อบต.มีหน้าที่หลักต้องทำประจำอยู่แล้ว ประกอบกับบางคนก็อาจจะกลัวติดโควิด-19 เนื่องจากมีครอบครัวที่ต้องดูแล ตนจึงอาสามาทำเองทั้งหมด ซึ่งนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่คนในพื้นที่ อ.ลาดยาว อ.ชุมตาบง และ อ.แม่วงก์ ที่เดือดร้อนแล้ว ก็ยังเป็นการแบ่งเบาช่วยเหลือหน่วยงานทางภาครัฐอีกทางหนึ่งด้วย
“ในการไปรับผู้ป่วยทุกครั้งก็จะเตรียมชุดป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่ ถุงมือยางมีไว้ในรถเป็นแพกเผื่อฉุกเฉิน ชุด PPE ก็เตรียมไว้อย่างน้อย 3-4 ชุด หน้ากากอนามัย เฟซชิลด์ ถุงเท้า เตรียมไว้หมดเผื่อฉุกเฉิน ออกจากบ้านก็ใส่ชุดธรรมดา เมื่อใกล้ถึงกรุงเทพฯ ใกล้ถึงจุดนัดรับผู้ป่วยเราก็ใส่ชุดป้องกันเต็มที่ และใส่ตลอดเวลาจนนำผู้ป่วยส่งเสร็จ”
ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นไม่เคยเรียกร้องหรือเก็บเงินจากผู้ป่วยแม้แต่บาทเดียว เนื่องจากเห็นใจและสงสารอยากให้ผู้ที่ป่วยไม่มีที่รักษาได้กลับมาอยู่ใกล้กับครอบครัวและภูมิลำเนา
