อุดรธานี - แม้ “แต้ว” สุดาพร จะชกพ่ายคว้าได้เพียงเหรียญทองแดงโอลิมปิก แต่ชนะใจครอบครัวและชาวอุดรธานีอย่างท่วมท้น เพื่อนสาวคนสนิทเตรียมทำอาหารอีสานของโปรดไว้รอเพื่อฉลองความสำเร็จบนเส้นทางสังเวียนมวยสากล
การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ประเภทหญิง รุ่นไลต์เวต 60 กก. หญิง รอบรองชนะเลิศ รอบ 4 คนสุดท้าย ที่สังเวียนเรียวโกกุ โคคุกิคัน อารีนา เมื่อเที่ยงวันนี้ (5 ส.ค.) น้องแต้ว นางสาวสุดาพร สีสอนดี มุมน้ำเงิน นักชกกำปั้นสาวไทย วัย 29 ปี ขึ้นสังเวียนพบกับ เคลลี แฮร์ริงตัน (ไอร์แลนด์) มุมแดง ซึ่งสุดาพรเสียเปรียบตัวเล็กกว่าเคลลี โดยบรรยากาศที่บ้านเกิดที่อำเภอไชยวาน จ.อุดรธานี มีญาติ เพื่อนบ้าน และตัวแทนส่วนราชการ ได้ร่วมชมและเชียร์การถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์กันอย่างคึกคัก
ยกแรกทั้งคู่ยังดูเชิงวงนอกกันเป็นส่วนใหญ่ สุดาพรได้แต่งดูเชิงไม่เดินเข้าปล่อยหมัด และออกหมัดมากกว่า ขณะที่เคลลี แฮร์ริงตัน ชิงปล่อยหมัดเข้าเป้ามากกว่า ยกแรกกรรมการให้นักชกจากไอร์แลนด์นำ 3-2 ยกสอง เคลลี แฮร์ริงตัน พยายามรอจังหวะเข้า เริ่มต้นยกการ์ดเป็นมวยขวา และบางจังหวะเปลี่ยนเป็นการ์ดมวยซ้าย สุดาพรเดินหน้าออกหมัดหนึ่งสองเข้าเป้ามากกว่า หมดยกกรรมการให้เคลลีชนะ 3-2 ยกสุดท้าย ต้นยกสุดาพรปล่อยหมัดหนึ่งสองพยายามเร่งเครื่องเดินออกหมัดเพื่อเรียกคะแนนจากกรรมการ
เคลลีได้แต่เดินโยกหลบ และรอดักจังหวะการชก ครบ 3 ยก กรรมการ 5 ท่านรวมคะแนนให้มุมแดง เคลลี แฮร์ริงตัน เอาชนะ น้องแต้ว สุดาพร สีสอนดี นักชกสาวไทย ไปได้ 3-2 คะแนน ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
นายปรินทร สีสอนดี อายุ 23 ปี น้องชายน้องแต้ว เปิดเผยว่า จากการชมฟอร์มการชกของพี่สาว ยกแรกพี่สาวต่อยไม่ค่อยดี พอมายกสองพี่สาวเริ่มชกเข้าเป้า ซึ่งหากดูคะแนนแบบมวยไทยพี่สาวชนะแน่นอน ซึ่งคู่ชกก็ทำดีเหมือนกัน การชกครั้งนี้สูสีใครชนะก็ได้ แต่พี่สาวแพ้ก็ไม่เป็นไร ถือว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว
ด้านนางสาวคณารักษ์ นาควงศ์ เพื่อนสาวคนสนิท บอกว่า แต้วทำได้เต็มที่แล้ว ถึงจะแพ้หรือชนะก็ไม่เป็นไร ผลออกมาจะอย่างไรก็ดีใจกับเขาเพราะเขาทำเต็มที่ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จสร้างประวัติศาสตร์ให้แก่ประเทศไทย โดยได้เหรียญทองแดงมาเป็นรางวัล หากเขากลับมาบ้านที่อุดรธานีตนก็จะทำกับข้าวอาหารอีสานรสแซ่บให้เขากิน ซึ่งเขาชอบแกงหน่อไม้มากเป็นพิเศษ