xs
xsm
sm
md
lg

แม่ค้าบัวลอยน้ำขิง หัวหินปรับตัวฝ่าวิกฤตช่วงล็อกดาวน์ ครั้งนี้น่าจะหนักที่สุดในชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประจวบคีรีขันธ์ - แม่ค้าบัวลอยน้ำขิงหน้าตลาดโต้รุ่งหัวหิน ยืนยันแม้จะมีคำสั่งล็อกดาวน์จังหวัดประจวบฯ ก็จะยังเปิดร้านทุกวันเนื่องจากต้องหารายได้เลี้ยงครอบครัว แต่จะปรับตัวใหม่อีกรอบด้วยการเปิดร้านเร็วขึ้น เตรียมวัตถุดิบลดลงครึ่งหนึ่ง ไม่ขึ้นราคาเพื่อช่วยเหลือลูกค้า ล็อกดาวน์ครั้งนี้น่าจะหนักที่สุดในชีวิต

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงขึ้น และมีคลัสเตอร์การระบาดหลายกลุ่ม ซึ่ง ศบค.ยกระดับเป็นจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวดสีแดงเข้ม และอยู่ใน 26 จังหวัดที่ขยายผลล็อกดาวน์ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 สิงหาคม โดยมาตรการสำคัญอย่างหนึ่งที่จะถูกนำมาใช้คือ การห้ามออกนอกเคหสถานระหว่า 21.00- 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อธุรกิจยามค่ำคืน


โดยเฉพาะร้านจำหน่ายอาหารที่เปิดเฉพาะช่วงกลางคืน และตลาดโต้รุ่งหัวหิน ซึ่งจะมีเวลาการจำหน่ายสินค้าในระยะเวลาที่สั้นลง ประชาชนมีเวลาเดินซื้อสินค้าในเวลาที่จำกัด ทำให้และอาจไม่คุ้มกับต้นทุน จนหลายร้านค้าต้องเลือกที่จะปิดร้าน แต่บางร้านค้าเลือกที่จะยืนหยัดเปิดร้านเพราะยังมีความหวังจากลูกค้าขาประจำและหวังกำไรเล็กๆ น้อยๆ ไปเลี้ยงครอบครัว

นางสมคิด เยื้อนแย้ม เจ้าของร้านเจ๊ติ๋มบัวลอยน้ำขิงหัวหิน ซึ่งตั้งร้านอยู่ริมถนนเพชรเกษม หน้าตลาดโต้รุ่งหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดขายบัวลอยน้ำขิง น้ำเต้าหู้ และเต้าทึง ยามค่ำคืนคู่กับตลาดโต้รุ่งหัวหินมานานกว่า 20 ปี กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ระลอกแรก ส่งผลให้ยอดจำหน่ายลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการระบาดในระลอกล่าสุดยอมรับว่าหนักสุด ลูกค้าลดลงอย่างมาก ในวันธรรมดาจะมีลูกค้าขาประจำเป็นคนในพื้นที่เท่านั้น สำหรับในช่วงที่มีการประกาศล็อกดาวน์ ซึ่งถือเป็นช่วงวิกฤตของธุรกิจยามค่ำคืน ตนยืนยันว่าจะยังคงเปิดร้านเช่นเดิม แต่จะต้องปรับตัวมากขึ้น จากเดิมที่จะตั้งร้านเวลา 17.00 น. จะต้องขยับมาให้เร็วขึ้น เริ่มตั้งร้าน 16.00 น. เตรียมวัตถุน้อยลงจากเดิม 50% พอถึงช่วงเวลา 20.00 น. จะต้องเตรียมปิดร้าน เพื่อกลับถึงบ้านให้ทันเวลา 21.00 น.


ถึงช่วงเวลาการขายของจะสั้นลง เวลาแค่ประมาณ 4 ชั่วโมง และคาดว่ายอดขายน่าจะลดลงจากเดิมอีก แต่น่าจะพอขายได้ เพราะมีประสบการณ์จากการล็อกดาวน์ในระลอกแรกที่ตนได้ฝ่าฟันเปิดร้าน พบว่ายังพอที่จะขายได้ มีลูกค้าแวะเวียนมาซื้อแม้จะเป็นรายได้ไม่มาก แต่ถือว่าพอได้กำไรเป็นค่ากับข้าวเลี้ยงครอบครัว ดีกว่าอยู่เฉยๆ เพราะสถานการณ์ทุกวันนี้ไม่ต่างจากล็อกดาวน์มากนัก กำลังซื้อของประชาชนลดลง ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 คนนิยมทานขิงกันมากขึ้น ทำให้ราคาขิงขยับขึ้นไปจากเดิมกิโลกรัมละ 60 บาท ตอนนี้ขึ้นมาอยู่ที่ 150 บาท แต่ตนยังขายราคาเดิม เพราะต้องการช่วยเหลือลูกค้าในช่วงที่ทุกคนลำบากเดือดร้อนกันหมด






กำลังโหลดความคิดเห็น