บุรีรัมย์ - “อนุทิน” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมเปิดโรงพยาบาลสนาม จังหวัดบุรีรัมย์ขนาดใหญ่ 2,000 เตียงพร้อมศูนย์พักคอย 500 เตียง เพื่อรองรับชาวบุรีรัมย์ติดเชื้อโควิดกลับรักษายังภูมิลำเนา เชื่อหากตั้งโรงพยาบาลสนามทุกจังหวัดจะสามารถนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาได้ครอบคลุม ทั้งเร่งทั่วประเทศฉีดวัคซีนให้ได้เดือนละ 10 ล้านโดส เพื่อลดความรุนแรงและยอดผู้ติดเชื้อ
ช่วงบ่ายวันนี้ (31 ก.ค. 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะฯ ได้ลงพื้นที่ติดตามตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลสนามจังหวัดบุรีรัมย์ (ไอคิว เฮาส์) ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามขนาด 2,000 เตียง และศูนย์พักคอยอีก 500 เตียง ที่ภาครัฐ ร่วมกับภาคเอกชนจัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับชาวบุรีรัมย์ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อยู่ตามจังหวัดต่างๆ กลับมารักษายังภูมิลำเนา หวังลดการป่วยรุนแรง และไม่เกิดผลกระทบทางสังคม
จากการตรวจเยี่ยมพบว่าโรงพยาบาลสนามดังกล่าวมีความพร้อมในทุกมิติ ทั้งด้านโครงสร้างอาคาร สถานที่ ความมั่นคง ปลอดภัย ระบบการดูแลรักษาตามมาตรฐานกรมการแพทย์ การจัดการขยะติดเชื้อ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในจังหวัด โดยโรงพยาบาลสนามดังกล่าวจะเปิดให้บริการในวันที่ 1 ส.ค.นี้
จากข้อมูลพบว่าปัจจุบันจังหวัดบุรีรัมย์มีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2564 ถึง 30 กรกฎาคม 2564 จำนวน 3,660 ราย แยกเป็นติดเชื้อในพื้นที่ 315 ราย ติดเชื้อมาจากนอกพื้นที่ 3,345 ราย อยู่ระหว่าง รักษา 3,226 ราย รักษาหาย 427 ราย เสียชีวิตสะสม 7 ราย ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาล (โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก) รวม 24 แห่ง มีเตียงรองรับผู้ป่วยทั้งหมด 1,521 เตียง ที่พร้อมให้การดูแลรักษาอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ และโรงพยาบาลสนาม จำนวน 20 แห่ง มีเตียงรองรับทั้งหมด 1,495 เตียง อยู่ระหว่างครองเตียง 1,315 ราย เตียงว่าง 180 เตียง มีศูนย์พักคอยทั้งหมด 31 แห่ง มีเตียงรองรับทั้งหมด 1,254 เตียง อยู่ระหว่างครองเตียง 469 ราย เตียงว่าง 785 เตียง
นายอนุทินกล่าวว่า รพ.สนามแห่งนี้ถือเป็นความร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชนเพื่อรองรับพี่น้องชาวบุรีรัมย์ที่ติดเชื้อโควิด-19 อยู่จังหวัดต่างๆ เดินทางกลับมารักษายังภูมิลำเนา ซึ่งจะมีบุคลากรการแพทย์ และเครื่องมือ อุปกรณ์สำหรับดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้ขอความร่วมมือทุกจังหวัดได้เปิดโรงพยาบาลสนามเพื่อรับผู้ป่วยกลับมารักษายังภูมิลำเนา เชื่อว่าจะทำให้ผู้ป่วยได้เข้าสู่ระบบการรักษาอย่างครอบคลุมทั่วถึงมากขึ้น
ทั้งนี้ จะเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนให้ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งจะกระจายวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉลี่ยจะดำเนินการฉีดวัคซีนให้ได้เดือนละ 10 ล้านโดส เพราะตอนนี้วัคซีนนำเข้ามาค่อนข้างนิ่งแล้วจนถึงสิ้นปี เพื่อลดความรุนแรงของการระบาด และลดจำนวนผู้ติดเชื้อ
