ประจวบคีรีขันธ์ - ตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากแคมป์คนงานก่อสร้างในซอยแม่เก็บ 5 พุ่งสูงถึง 181 คน จากแรงงานทั้งหมด 264 คน ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ลงนามสั่งปิดแคมป์คนงานตั้งแต่วันนี้ไปถึง 10 สิงหาคม รวมระยะเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการระบาด
หลังจากแคมป์แคนงานก่อสร้างซอยแม่เก็บ 5 ซึ่งมีแรงงานอย่างกว่า 200 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานพม่า เขมร และมีการตรวจพบว่าแรงงานติดเชื้อโควิด-19 กว่า 100 คนนั้นจนทำให้ชาวบ้านในชุมชนรอบแคมป์คนงานดังกล่าวต่างพากันวิตกกังวลเป็นอย่างมากเนื่องจากก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์แรงงานเหล่านี้กว่า 200 คน ได้เดินทางไปก่อสร้างคอนโดหรูริมหาดหัวหิน ในซอยหัวหิน 71 และเมื่อมีแรงงานติดเชื้อจำนวนมากชาวบ้านยิ่งเป็นห่วงว่าแรงงานเหล่านั้นเดินทางไปที่ไหนมาบ้างในช่วงนั้น
ล่าสุด นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ลงนามในคำสั่งจังหวัดที่ 7502/256 ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตรวจสอบหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในกลุ่มแรงงานก่อสร้างภายในแคมป์คนงานก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ ของบริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) บริเวณซอยหัวหิน 88 ต่อเนื่องซอยหัวหิน 94 พบแรงงานก่อสร้างติดเชื้อแล้ว 181 ราย จากแรงงานทั้งหมด 264 คน จึงมีความจำเป็นต้องจัดตั้งสถานที่เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อแทนโรงพาบาลหัวหิน ซึ่งมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก รวมทั้งเพื่อใช้เป็นสถานที่ในการกักตัวแรงงานที่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด หรือผู้มีความเสี่ยงสูงเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน หรือจนกว่าจะตรวจไม่พบเชื้อ
โดยคำสั่งระบุว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังจาก สสจ. สั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้างเพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาด แต่ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันสถานที่ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามกฎหมาย จังหวัดมีคำสั่งให้ปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ห้ามแรงงานเดินทางออกมาจากสถานที่ดังกล่าว ไม่ให้เคลื่อนย้ายแรงงานออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พร้อมจัดตั้ง รพ.สนามในแคมป์ก่อสร้าง ให้เทศบาลเมืองหัวหินเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารและเบิกจ่ายงบประมาณค่าอาคารสถานที่ ค่าวัสดุและอุปกรณ์ในการป้องกันทำความสะอาดและควบคุมโรค รวมทั้งระบบการรักษาความปลอดภัย
หากฝ่าฝืนอาจมีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม-10 สิงหาคม 2564