เชียงใหม่ - เชียงใหม่ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 69 ราย ระบุการระบาดรอบนี้ตรวจพบเป็นสายพันธุ์เดลตา 90% เผยรับผู้ป่วยต่างพื้นที่เข้ารักษามากสุดในภาคเหนือกว่า 300 ราย ซึ่งหลายรายเข้ามาอย่างผิดระบบและไม่ปฏิบัติตามมาตรการจนแพร่เชื้ออีกกว่า 600 ราย
วันนี้ (28 ก.ค. 64) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่รายงานว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 69 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมของการระบาดระลอกใหม่นี้ตั้งแต่เดือนเม.ย. 64 เป็น 5,307 ราย รักษาหายออกจากโรงพยาบาลแล้ว 4,433 ราย อย่างไรก็ตาม หากนับเฉพาะตั้งแต่ 1 ก.ค. 64 มียอดสะสมทั้งสิ้น 1,138 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในจังหวัด 736 ราย และติดเชื้อจากต่างจังหวัด 402 ราย โดยขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 820 ราย ในจำนวนนี้แบ่งเป็นอาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 20 ราย, อาการปานกลาง (สีเหลือง) 131 ราย และอาการน้อย (สีเขียว) 669 ราย ซึ่งวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตทำให้ยอดสะสมยังอยู่ที่ 31 ราย สำหรับรายละเอียดผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่นั้น ประกอบด้วย โรงพยาบาลสนาม 464 ราย, โรงพยาบาลรัฐ 211 ราย โรงพยาบาลเอกชน 138 ราย และโรงพยาบาลต่างจังหวัด 7 ราย ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 23 ราย ซึ่งในช่วงเย็นนี้จะมีการชี้แจงรายละเอียดต่อไป
ส่วนการลงทะเบียนเตรียมฉีดวัคซีนโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 28 ก.ค. 64 มีผู้ประสงค์ฉีดแล้ว 818,831 คน จากเป้าหมาย 1.2 ล้านคน โดยมีการฉีดวัคซีนให้ชาวเชียงใหม่แล้วสะสม 315,155 โดส แบ่งเป็น แอสตร้าเซนเนก้า เข็มแรก 110,305 โดส, ซิโนแวคเข็มแรก 115,774 โดส และซิโนแวคเข็มที่สอง 89,076 โดส หรือคิดเป็นจำนวนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 226,079 คน โดยมีการรณรงค์เชิญชวนให้ชาวเชียงใหม่ร่วมใจลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ป้องกันโรค ด้วยการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ “ก๋ำแปงเวียง” ช่องทางเดียวเท่านั้น
ด้านนายแพทย์ จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกนี้เป็นการระบาดที่รวดเร็ว เป็นวงกว้าง และกระจายไปทุกกลุ่มอาชีพ ทั้งยังเป็นการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์อย่างเดลตา (อินเดีย) มากถึง 90% พร้อมบอกว่าขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่มีการรับผู้ป่วยจากต่างพื้นที่เข้ามามากกว่าทุกจังหวัดในภาคเหนือ เบื้องต้นจำนวน 327 รายแล้ว ทั้งที่มาแบบถูกต้องและไม่ถูกต้อง ซึ่งมีทั้งผู้ที่มีภูมิลำเนาในเชียงใหม่และจากต่างพื้นที่เข้ามาเองด้วย โดยได้รับไว้รักษาทั้งหมด อย่างไรก็ตาม พบว่ากลุ่มนี้มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องสู่บุคคลอื่นๆ แล้วกว่า 600 ราย จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อควบคุมโรคให้ได้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ กุญแจหลักสำคัญในการดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของจังหวัดเชียงใหม่ คือ “การ SWAB ให้เร็วที่สุด และเข้ารับการรักษาภายหลังจากทราบผลการตรวจภายใน 24 ชั่วโมง” พร้อมเน้นย้ำให้ทุกพื้นที่สอดส่อง ดูแล ไม่ให้เกิดการรวมกลุ่มทำกิจกรรมของผู้คนจำนวนมาก และให้ยกระดับสร้างการรับรู้การปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด คือ D-M-H-T-T-A ซึ่งหากชุมชนปลอดภัย หมู่บ้านปลอดภัย จังหวัดก็จะปลอดภัย
