ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกอบการโรงงานน้ำแข็งเมืองพัทยาโอด ล็อกดาวน์ชลบุรีรอบนี้กระทบหนักยอดขายร่วงแล้ว 70% ขณะที่ลูกค้าหายในพริบตากว่า 1,000 ราย จากมาตรการห้ามนั่งรับประทานในร้านอาหาร เผยอีก 3 เดือนสถานการณ์ไม่ดีขึ้นอาจจำใจปรับลดพนักงาน
หลังจากที่ ศบค. ได้ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 จ.ชลบุรี ให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มีผลตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยกำหนดให้ประชาชนห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. เว้นแต่มีความจำเป็น ห้างสรรพสินค้าเปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เกต แผนกยา อาหาร
ส่วนร้านสะดวกซื้อ ร้านโต้รุ่ง ปิด 20.00 น. พร้อมสั่งปิดร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม และห้ามรวมกลุ่มกันเกิน 5 คน และยังได้จำกัดการเดินทางในพื้นที่ 6 จังหวัดปริมณฑลตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.2564 นั้น
วันนี้ (28 ก.ค.) นายบุญอนันต์ พัฒนสิน ผู้บริหารบริษัทในเครือราชากรุ๊ป ซึ่งประกอบธุรกิจโรงน้ำแข็งในเขต อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กล่าวว่า มาตรการล็อกดาวน์ 14 วันได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างมาก และนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยอดขายน้ำแข็งในเครือราชากรุ๊ป ลดลงแล้วถึง 70%
ทั้งนี้ เพราะโรงน้ำแข็งในเครือราชากรุ๊ป มีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั้งเขตแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จนถึง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง ซึ่งในช่วงสถานการณ์ปกติจะมีรถส่งน้ำแข็งออกวิ่งให้บริการทั้งแบบขายปลีกและส่งรวม 45 คัน
แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ระลอกแรกจนถึงปัจจุบันได้มีการปรับลดจำนวนรถส่งน้ำแข็งเหลือเพียง 25 คัน เพื่อรอให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและโรคระบาดดีขึ้น
กระทั่งเกิดการแพร่ระบาดระลอก 3 ที่ จ.ชลบุรี มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากจนนำสู่การประกาศล็อกดาวน์พื้นที่เพื่อลดจำนวนการแพร่ระบาด ที่ส่งผลให้ร้านค้า ร้านอาหารที่เคยกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งต้องยุติลง และแม้ร้านอาหารจะเปิดทำการได้แต่ก็เจอมาตรการห้ามนั่งรับประทาน
กระทบโดยตรงต่อการค้าขายในภาคบริการถึง 100% เต็ม แม้ขั้นตอนการผลิตน้ำแข็งของโรงงานจะผ่านกระบวนการผลิตที่มีความสะอาดและปลอดภัยทุกขั้นตอน รวมถึงใช้การบรรจุหีบห่อด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยปลอดภัยก็ตาม
“อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบการผลิตน้ำแข็งในเครือราชากรุ๊ปว่าได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย อีกทั้งยังขอให้ภาครัฐผ่อนปรนมาตรการเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถค้าขายและประกอบธุรกิจได้บ้าง เพราะขณะนี้ผู้ประกอบการจำนวนมากไม่กล้าลงทุน บางร้านถึงขั้นทิ้งร้าน”
ผู้บริหารบริษัทในเครือราชากรุ๊ป ยังเผยอีกว่าก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทมีลูกค้าในมือประมาณ 4,500 ราย ปัจจุบันเมื่อมีมาตรการที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ทำให้ลูกค้าเหลือไม่ถึง 3,000 ราย
“ขณะที่ลูกค้าที่ยังเหลืออยู่ไม่ได้สั่งซื้อน้ำแข็งในปริมาณเท่าเดิม เช่น เคยสั่งซื้อน้ำแข็ง 10-20 ถุงต่อวัน เหลือเพียง 1-2 ถุง ซึ่งแม้จะได้รับผลกระทบหนักแต่ขณะนี้ยังไม่มีการเลิกจ้างพนักงาน แต่หากสถานการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้าไม่ดีขึ้น อาจต้องจำใจปรับลดพนักงานลงบ้างเนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระได้ไหว” นายบุญอนันต์ กล่าว