พิษณุโลก – ผู้ป่วยโควิดแห่หนีกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หา รพ.บ้านเกิดรักษาตัว จนมีคนเสี่ยงสูง-เสี่ยงต่ำในชุมชน ชาวคลองไร่-เนินมะปราง ต้องล็อกดาวน์หมู่บ้าน ห้ามคนเข้าออกรวมถึงรถพุ่มพวง ขณะที่จังหวัดฯเปิดศูนย์คัดกรอง-พักคอย 25 ก.ค.นี้
วันนี้(22 ก.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ติดเชื้อโควิดชาวพิษณุโลกที่ไปทำงานในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ซึ่งประสบปัญหาไม่มีเตียงรองรับการรักษา พยายามหาทางกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดพบว่า ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ (ศปก.) อ.เนินมะปราง ต้องประกาศล็อกดาวน์พื้นที่บ้านคลองไร่ หมู่ 7 ต.บ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 20 - 26 ก.ค. 64
นายปฎิวัติ แดนแก้ว ชาวบ้านคลองไร่ หมู่ 7 เปิดเผยว่า ตนอยู่ในชุดควบคุมโรค ทีมล็อกดาวน์ตั้งด่านหน้าหมู่บ้าน ยืนยันว่ามีป่วยโควิดรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว 7 คน ขณะที่กลุ่มเสี่ยงสูงในหมู่บ้านอีก 21 คน และทราบว่ามีผู้เสี่ยงต่ำอาจติดเชื้ออีกกว่า 30-40 รายนอนอยู่ที่วัดในหมู่บ้าน ซึ่งผู้แพร่เชื้อนั้น ส่วนใหญ่มาจากกรุงเทพฯและปริมณฑล
“วันนี้จึงต้องตั้งด่านสกัดไม่ให้คนในออก และคนนอกไม่ได้เข้าหมู่บ้าน รถพุ่มพวงขายผัก อาหารสด ข้าวแกง ก็เข้าไม่ได้ ส่วนผู้ที่จำเป็นต้องเข้าหมู่บ้านจริงๆ ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน ครบ 2 เข็ม ให้ด่านฯดูก่อน”
ขณะที่จังหวัดพิษณุโลก ได้ดำเนินโครงการ “พาคนพิษณุโลกกลับบ้าน” นำผู้ติดเชื้อจากกทม.ปริมณฑลกลับมารักษาที่พิษณุโลก คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฏาคม 2564 นี้ โดยเปิดศูนย์คัดกรองพักคอยขึ้นที่โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม เพื่อคัดกรองผู้ที่ติดเชื้อที่กลับมาจาก กทม.รวมทั้งผู้ติดเชื้อในจังหวัดด้วย ว่าอาการอยู่ในระดับไหน มีรถเอกซเรย์ปอดทุกราย วัดค่าออกซิเจนในเลือด ฯลฯ
จากนั้นจะแยกผู้ป่วยสีเขียวส่งไปศูนย์พักคอย 3 แห่ง หรือ โรงพยาบาลสนาม คือ วิทยาลัยเทคโนโลยีบริหารธุรกิจพิษณุโลก (รับได้ประมาณ 260 ราย) ,ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม (ใช้หอพักนักศึกษา รับได้ห้องละ 4 คน สามารถรับผู้ป่วยได้ 320 ห้อง) และ ม.เทคโนโลยีล้านนา วิทยาเขตพิษณุโลก ซึ่งจะดูอาการเข้มข้น 7-10 วันแรก เมื่อปลอดภัยไม่มีอาการรุนแรง จะนำไปกลับสู่ศูนย์โควิดชุมชน ที่จะจัดตั้งขึ้นอยู่ทุกอำเภอจนครบ 14 วัน
