ราชบุรี - รองประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ICT เตรียมชี้แจงเหตุผลไม่เห็นด้วยกับการจัดซื้อเรือดำน้ำในสภา พรุ่งนี้ เชื่อวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำคัญกับประชาชนมากกว่า
จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวจากทุกสื่อ ว่าจะมีการจัดหาเรือดำน้ำของทหารเรือ เป็นจำนวน 2-3 ลำ งบประมาณกว่า 22,500 ล้านบาท เพื่อเป็นการทำประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศชาติ ซึ่งมีหลายฝ่ายออกมาให้ความคิดเห็นไปต่างๆ นานา ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งผู้ที่สนับสนุนให้มีการจัดซื้อ และมีผู้ที่คัดค้านการจัดซื้อเรือดำน้ำ ทั้งที่ในสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างลุกลามไปทั้งประเทศไทย หลายฝ่ายออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าควรนำงบประมาณในส่วนตรงนี้ไปใช้จ่ายในเรื่องของการป้องกันโควิด-19 หลายด้าน รวมไปถึงการจัดหาวัคซีนยี่ห้อต่างๆ มาแจกจ่ายให้กับประชาชนคนไทย
ล่าสุด ทางโฆษกกลาโหมได้ออกมาเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งถอนงบเรือดำน้ำปี 65 โดยให้ยืดเวลาออกไป เพื่อชะลอการจัดซื้อ พร้อมเตรียมนำงบไปบริหารเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น
ทางผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสอบถาม นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี เขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ICT ในกรรมาธิการงบประมาณปี 2565 โดยเผยว่า ตนไม่เห็นชอบให้กองทัพเรือจัดซื้อเรือดำน้ำ สิ่งที่ประชาชนอยากได้คือวัคซีนไม่ใช่อาวุธ
โดยรองประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ICT มีหน้าที่อนุมัติงบประมาณของทุกกระทรวงเกี่ยวกับเรื่องครุภัณฑ์ เช่น ถ้าเป็นกระทรวงกลาโหมจะจัดซื้อเรือดำน้ำ อาวุธ เรือตรวจการณ์ ตนมีแนวคิดที่ว่า ในภาวะที่ประชาชนประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดก็คือวัคซีน และการกลับมาใช้ชีวิตที่ปกติในเรื่องของสภาพทางเศรษฐกิจ คือปัญหาปากท้อง วันนี้เมื่อมันมีวิกฤต สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือการจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบัน คือการนำงบประมาณไปดูแลในเรื่องของการจัดซื้อวัคซีน เพื่อแก้ไข้ปัญหาปากท้องของประชาชน ตนเองได้มีการหารือกับผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ และได้มีการหารือหลายฝ่าย ต่างก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้คณะอนุกรรมาธิการด้านครุภัณฑ์อนุมัติงบประมาณให้กองทัพไปจัดซื้อเรือดำน้ำ และได้แถลงไปแล้วว่าไม่เห็นชอบให้มีการจัดซื้อเรือดำน้ำ
ในส่วนของอนุกรรมาธิการได้มีการพูดคุยกันซึ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ในสถานการณ์แบบนี้ โดยในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) มีวาระการประชุมพิจารณางบประมาณกระทรวงกลาโหม ให้ผู้แทนทราบ ซึ่งจะเป็นปลัดกระทรวงและผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้ามาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ตนจะได้เล่าถึงเหตุผลว่าเหตุใด ในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชนจึงไม่อนุมัติในการจัดซื้อเรือดำน้ำในสถานการณ์ปัจจุบันนี้
