บุรีรัมย์ - สาธารณสุขอำเภอเมืองบุรีรัมย์ร่วมกับ อบต.เสม็ด และผู้นำชุมชนเปิด รพ.สนามในศาลาวัดเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิดที่อาการไม่หนัก หลังพบคลัสเตอร์ปลาส้มทำชาวบ้าน 4 หมู่บ้านติดเชื้อถึง 38 ราย พร้อมเดินหน้าสวอบให้ครบ 2,500 คน
วันนี้ (15 ก.ค.) นายประเสริฐ สาวีรัมย์ สาธารณสุขอำเภอเมืองบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางนิจ แก้วศรีใส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเสม็ด และนายกนกศักดิ์ เสงี่ยมศักดิ์ กำนันตำบลเสม็ด ได้ร่วมกันตรวจความพร้อมสถานที่ เตียง และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ภายในบริเวณศาลาวัดใหม่บ้านโคกเพชร ที่เปิดให้เป็นโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ตำบลเสม็ด ภายหลังจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ได้ออกคำสั่งกำหนดพื้นที่ควบคุมหรือล็อกดาวน์ 4 หมู่บ้าน คือ บ้านเสม็ด หมู่ 1, บ้านโคกเพชร หมู่ 2, หมู่ 7 และบ้านโนนพลอย หมู่ 19 เนื่องจากมีการตรวจพบคลัสเตอร์จากผู้ประกอบอาชีพทำปลาส้มขาย ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ทั้ง 4 หมู่บ้านติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 38 ราย และเสี่ยงสัมผัสหลายราย
โดย รพ.สนามภายในวัดใหม่บ้านโคกเพชรดังกล่าวจะใช้สำหรับรองรับผู้ป่วยโควิดที่อาการไม่หนัก หรือผู้ที่ได้รับการรักษาจาก รพ.แล้วมีอาการดีขึ้น หรือตรวจไม่พบเชื้อแต่อยู่ในข่ายเฝ้าสังเกตอาการให้ครบ 14 วันจะเคลื่อนย้ายมาไว้ที่ รพ.สนามดังกล่าว เพื่อลดความแออัดและจำนวนเตียงผู้ป่วยใน รพ.บุรีรัมย์ ที่เตียงอาจจะไม่เพียงพอเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการสวอบหรือตรวจหาเชื้อโควิดกลุ่มเสี่ยงสัมผัสแล้วเกือบ 400 คน จากจำนวนประชากรทั้ง 4 หมู่บ้านที่คณะกรรมการโรคติดต่อสั่งล็อกดาวน์กว่า 2,500 คน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม ซึ่งที่เหลือจะทำการสวอบให้ครบทุกคน
นายกนกศักดิ์ เสงี่ยมศักดิ์ กำนันตำบลเสม็ด กล่าวว่า หลังจากที่ประชาชนในพื้นที่ 4 หมู่บ้านในตำบลเสม็ดติดเชื้อโควิดถึง 38 คน และมีผู้เสี่ยงสัมผัสอีกหลายคน ทางสาธารณสุขอำเภอเมืองบุรีรัมย์จึงร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลเสม็ด และผู้นำชุมชน ได้เปิด รพ.สนามภายในวัดใหม่บ้านโคกเพชรเพื่อรองรับผู้ป่วยกรณีเตียงไม่เพียงพอ ซึ่งเบื้องต้นได้จัดทำเตียงสนามไว้รองรับ 50 เตียง ทั้งนี้ยังได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าดูแลทางเข้า-ออกหมู่บ้านที่ถูกสั่งปิดทั้ง 4 หมู่บ้านตามประกาศจังหวัดด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายเชื้อ
ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์พบว่าล่าสุดทั้งจังหวัดบุรีรัมย์มียอดผู้ป่วยสะสมแล้ว 1,104 ราย เสียชีวิตสะสม 4 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 297 ราย อยู่ระหว่างรักษา 803 ราย โดยอำเภอที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ อ.เมือง 197 ราย รองลงมา อ.ประโคนชัย 105 ราย, กระสัง 95 ราย, สตึก 77 ราย, ลำปลายมาศ 62 ราย และ อ.คูเมือง 60 ราย ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด
