พระนครศรีอยุธยา - ชาวบ้านแตกตื่น! คิดว่าสารสารเคมีรั่วภายในโรงงานย่านนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ที่แท้เป็นการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ที่ผสมเข้มข้นเกินไป จนพนักงานสูดดมสารเข้าไปถูกนำส่ง รพ. 31 ราย
วันนี้ (12 ก.ค.) เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร รับแจ้งว่า มีสารเคมีรั่วไหลภายในโรงงานแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน หมู่ที่ 2 ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้พนักงานเป็นลม วิงเวียนศีรษะ ชายหญิง รวม 31 ราย ถูกนำส่ง รพ.บางปะอิน เพื่อปฐมพยาบาลจนปลอดภัยทุกคน
ต่อมา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทราบข่าว จึงมอบหมายให้ นายสัน สร้อยแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบกรณีมีข่าวเกิดสารเคมีรั่วไหลภายในโรงงานผลิตชุดชั้นใน ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่า สาเหตุเกิดจากโรงงานได้ดำเนินการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในสัดส่วนการผสมมีความเข้มข้นเกินกำหนด และอากาศไม่หมุนเวียน จึงทำให้พนักงานบางส่วนเป็นลม หน้ามืด โดยทางโรงงานได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ดังนี้
1.หยุดงานให้พนักงานทั้งหมดกลับที่พัก 2.เปิดพื้นที่ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และ 3.เฝ้าระวังพนักงานที่มีอาการนำส่งโรงพยาบาล ทั้งหมดจำนวน 31 ราย ซึ่งบางรายมีอาการไม่มาก พักสูดดมยาดมก็กลับบ้านได้เลย ส่วนที่เหลืออีก 17 ราย แพทย์ให้พักดูอาการที่โรงพยาบาล เพื่อตรวจสอบผลข้างเคียง ซึ่งอาการไม่มากแพทย์ไม่ได้สั่งให้แอดมิดก็ทยอยกันกับบ้านได้
ด้าน นายสัน สร้อยแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า บริษัทดังกล่าว ได้ทำการฉีดพ่นน้ำยา (เดทตอล) ทำความสะอาด และฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) บริเวณชั้น 2 แผนกเย็บชุดชั้นใน ใส่น้ำยาผสมกับน้ำในปริมาณที่เข้มข้นจนมากเกินไป ซึ่งเป็นห้องแอร์ ประกอบกับอากาศถ่ายเทไม่สะดวก จึงส่งผลให้มีกลิ่นคละคลุ้ง ทำให้พนักงานบางรายเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ และเป็นลม จึงได้ประสานไปทางอาสาสมัครมูลนิธิในพื้นที่ นำผู้เกิดอาการดังกล่าวส่งโรงพยาบาลบางปะอิน เพื่อปฐมพยาบาลจนปลอดภัยทุกคน ไม่ใช่เกิดจากสารเคมีรั่วตามที่ข่าว