กาฬสินธุ์ - เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามและเลี้ยงปลาจังหวัดกาฬสินธุ์ฝันสลาย สัตว์น้ำตายเกลื่อนช่วงโควิดระบาดแต่ไม่ได้รับเงินเยียวยา เหตุเงื่อนไขไม่เข้าข่ายภัยพิบัติธรรมชาติ ด้านเขื่อนลำปาวเริ่มระบายน้ำออกท้ายเขื่อนแล้ว
วันนี้ (12 ก.ค.) บรรยากาศการประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งก้ามกราม และเลี้ยงปลาสัตว์เศรษฐกิจของเกษตรกรชาว จ.กาฬสินธุ์ ในกลุ่มที่อาศัยน้ำจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวหรือเขื่อนลำปาว พบว่าเริ่มผ่อนคลายแล้ว เมื่อเขื่อนลำปาวได้เริ่มส่งน้ำมาตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากเผชิญกับปัญหากุ้งและปลาที่เลี้ยงไว้น็อกน้ำตายเสียหายจำนวนมาก เนื่องจากอากาศวิปริตร้อนสลับกับฝนตก สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน, ขาดแคลนน้ำเปลี่ยนถ่ายทำให้น้ำเน่าเสีย และสัตว์น้ำในบ่อหนาแน่นเกินไปเพราะร้านค้าและตลาดรับซื้อปิดช่วงการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ หลังจากสัตว์น้ำประเภทกุ้งก้ามกรามและปลาตาย มีเกษตรกรหลายรายเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และหามาตรการเยียวยา โดยหวังว่าจะได้รับเงินชดเชยช่วยเหลือ ในลักษณะเดียวกับที่เคยประสบภัยพิบัติน้ำป่าไหลหลาก หรือกรณีประสบภัยธรรมชาติหรือสาธารณภัยต่างๆ เช่นภัยแล้ง เหตุวาตภัย
นายวุฒิชัย วังคะฮาต ประมงจังหวัดกาฬสินธุ์ ชี้แจงทำความเข้าใจว่า สำหรับความเสียหายของสัตว์น้ำประเภทกุ้งก้ามกรามและปลาช่วงที่ผ่านมานั้น จากการประเมินสถานการณ์และสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่เข้าหลักเกณฑ์จะได้รับเงินเยียวยา เพราะเกษตรกรสามารถบริหารจัดการเตรียมความพร้อมรับมือ หรือแก้ไขปัญหาบรรเทาความเสียหายด้วยตนเองได้ เช่น จัดการเรื่องความหนาแน่นของสัตว์น้ำในบ่อ บริหารเรื่องน้ำให้เพียงพอ มีอุปกรณ์ตีน้ำสร้างออกซิเจนในบ่อ รวมถึงลดอาหารในช่วงที่ไม่มีน้ำเปลี่ยนถ่ายเพื่อป้องกันน้ำเสีย
สำหรับเกษตรกรที่จะได้รับความช่วยเหลือ กรณีสัตว์น้ำตายหรือได้รับผลกระทบนั้นจะต้องลงทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นต้องเป็นในลักษณะเสียหายในวงกว้าง และทางจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ โดยจะมีคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) เข้าตรวจสอบและประเมินความเสียหาย เพื่อรับเงินช่วยเหลือจากทางราชการ เช่น กุ้งก้ามกรามไร่ละ 10,920 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่,
ปลาที่เลี้ยงในบ่อดิน ไร่ละ 4,225 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่, ปลาที่เลี้ยงในกระชังหรือบ่อซีเมนต์ ตารางเมตรละ 315 บาท รายละไม่เกิน 80 ตารางเมตร ดังนั้น กรณีสัตว์น้ำตายในช่วงเกิดสถานการณ์ระบาดเชื้อโควิด-19 ทั้งอากาศวิปริต หรือตลาดปิด จำหน่ายผลผลิตไม่ได้ จึงไม่เข้าข่าย ไม่ได้รับเงินเยียวยา เพราะทางจังหวัดไม่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติดังกล่าว