เชียงราย - ผู้ว่าฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมช่วยเหลือ “ชุมชนชาวเมียนมาแยกแม่กรณ์ เชียงราย” หลังพบแรงงานพม่าย้ายจากเชียงใหม่เข้าพื้นที่ติดโควิด 1 ราย ทำนายจ้างตื่นชะลอจ้างงานยกหมู่บ้าน เดือดร้อนขาดรายได้กันนับพันชีวิต
วันนี้ (7 ก.ค. 64) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายแพทย์ ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อาจารย์สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการสำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ในฐานะผู้ประสานงานศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติใน จ.เชียงราย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบหมู่บ้านไทยสมุทร หมู่ 13 ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็นชุมชนที่มีชาวเมียนมาอาศัยอยู่ประมาณ 1,000 คน
หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจพบแรงงานชาวเมียนมา เป็นชายอายุ 30 ปี ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนทำให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) อ.เมืองเชียงราย และเทศบาลนครเชียงราย ได้ปิดพื้นที่ซอย 2 และซอย 3 ที่มีประชากร 31 ครัวเรือน จำนวน 70 คน และมีหญิงตั้งครรภ์ด้วย 1 ราย โดยไม่ให้ออกนอกเคหสถานเป็นเวลา 14 วัน โดยเจ้าหน้าที่ได้นำอาหารและน้ำดื่มไปมอบให้ ณ จุดที่ควบคุมเพื่อให้ยังชีพอยู่ได้
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบได้ลุกลามไปยังชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ในซอยข้างเคียงพื้นที่ควบคุม เนื่องจากนายจ้างยังไม่รับคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวที่พบการติดเชื้อโควิดเข้าทำงาน ทำให้แรงงานชาวเมียนมาจำนวนมากขาดแคลนรายได้และต้องการอาหารน้ำดื่มไปพร้อมกันด้วย
ล่าสุดนายสมกิจ เกศนาคินทร์ นายอำเภอเมืองเชียงราย ในฐานะหัวหน้า ศปก.อ.เมืองเชียงราย ได้ให้เจ้าหน้าที่จัดโรงครัวเพื่อแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปตรวจหาเชื้อเพิ่มเติมในแรงงานที่อาศัยอยู่ในซอย 3 และซอย 4 ที่อยู่ติดกันเพื่อสร้างความมั่นใจแก่นายจ้างและประชาชนข้างเคียงแล้ว
นายประจญกล่าวว่า ชุมชนนี้มีลักษณะเป็นบ้านเช่าที่มีแรงงานต่างด้าวเข้าไปเช่าอยู่อย่างแออัด กรณีผู้ป่วยที่เดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ได้ 2-3 วัน และกำลังจะไปสมัครเข้าทำงานในเชียงราย แต่ตรวจพบการติดเชื้อเสียก่อนปัจจุบันรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ต้องป้องกันด้วยการปิดพื้นที่ชุมชนบางส่วน จากนั้นได้ให้การช่วยเหลือเรื่องอาหารการกินไปจนกว่าจะครบ 14 วัน สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีอยู่ 3-4 คน ซึ่งเป็นคนในครอบครัวผู้ติดเชื้อได้ตรวจหาเชื้อครั้งแรกพบผลเป็นลบ ซึ่งก็หวังว่าเชื้อจะไม่กระจายออกไปมากกว่านี้อีก
อาจารย์สืบสกุลกล่าวว่า ผู้อาศัยในหมู่บ้านนี้กว่า 90% เป็นชาวเมียนมาที่อยู่กันอย่างหนาแน่นในลักษณะครอบครัว ส่วนใหญ่ทำงานรับจ้างอยู่ในตลาดค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ ที่เหลือก็รับจ้างทั่วไป และเนื่องจากเป็นแรงงานข้าวชาติทางศูนย์ฯ จึงมาให้บริการตั้งจุดบริการวัดไข้ ตรวจสุขภาพเบื้องต้น ฯลฯ ตลอดระยะเวลา 14 วัน เพื่อให้คนในชุมชนมีความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่น จากนี้ก็จะรอผลการตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงสูงรอบที่ 2 ในวันที่ 12 ก.ค.นี้ และในกลุ่มอื่นๆ ภายในหมู่บ้านจนกว่าสถานการณ์จะปกติ
วันเดียวกัน ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย แจ้งว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวน 13 ราย ในเขต อ.เมืองเชียงราย 2 ราย อ.เวียงป่าเป้า 4 ราย อ.เชียงของ 2 ราย อ.แม่จัน 4 ราย และ อ.เวียงแก่น 1 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่เดือน เม.ย. จำนวน 1,067 ราย เสียชีวิตสะสม 15 ราย รักษาอยู่ 153 ราย หายป่วยแล้ว 899 ราย โดยกรณีบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ที่ป่วย 49 คนนั้น ล่าสุดรักษาหายเกือบหมด เหลือเพียง 2 คนที่ยังรักษาอยู่แต่ก็ไม่พบอาการใดๆ