พระนครศรีอยุธยา - ระทึก! สาววัย 15 ถูกบังปล่อยเงินกู้ลวงเข้าโรงแรมหวังทำอนาจาร ก่อนอ้างขอเข้าห้องน้ำขอความช่วยเหลือ ตำรวจสายตรวจรุดช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วจนพ้นเงื้อมมือ
เวลา 15.00 น.วันนี้ (6 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุว่ามีหญิงสาวถูกล่อลวงเข้าโรงแรมเพื่อหวังอนาจาร จึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ จำนวน 4 นาย เข้าตรวจสอบภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา พบว่าที่ห้อง เบอร์ 10 ปิดล็อกอยู่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจพยายามเคาะเรียกบุคคลที่อยู่ภายในห้อง กระทั่ง นายพี อายุ 67 ปี ชาวอินเดีย เปิดประตูห้องออกมา ส่วนหญิงสาววัย 15 ปี ยังอยู่ภายในห้องน้ำของโรงแรม เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงช่วยเหลือออกมาได้สำเร็จ พบยังอยู่ในอาการตกใจและเนื้อตัวสั่นยืนร้องไห้ตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวจึงสอบถาม น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี กล่าวว่า น้าของตนเองได้กู้เงินบังพี โดยจะส่งเป็นรายวัน วันละ 200 บาท โดยปกติตนเองจะนำเงิน จำนวน 200 บาทมาส่งให้บังพี โดยมีการนัดส่งกันบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ หรือ หน้าร้านซูเปอร์มาร์เกต บริเวณซอยวัดพระญาติ แต่วันนี้ บังพี บอกว่าให้นำเงินมาส่งให้ที่ห้องพัก ซึ่งบอกว่าเช่าอยู่บริเวณ โรงแรมจุดเกิดเหตุ
กระทั่งไปถึงห้องเบอร์ 10 บังพี อยู่ในห้อง แล้วบอกว่าให้ตนเองเอาเงินจำนวน 200 บาท ไปส่งให้ในห้อง เมื่อตนเองเดินเข้าไปบังพีก็ล็อกประตูห้อง จากนั้นดึงแขนตัวเองลงไปบนที่นอนพยายามหวังจะทำอนาจาร ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงทำทีเป็นขอเข้าห้องน้ำ จากนั้นใช้โทรศัพท์มือถือทักแชตหาป้า เพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้ามาช่วยเหลือ
เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสอบถาม บังพี หรือ นาย RAJESH อายุ 67 ปี ชาวอินเดีย แต่ให้การปฏิเสธและอ้างว่าไม่ได้ทำอนาจารเด็กสาววัย 15 ปี แค่เอาเงินมาส่งรายวัน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อจึงควบคุมตัวไปที่ สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดี พร้อมติดต่อประสานญาติของหญิงสาววัย 15 ปี เข้ามาดำเนินการแจ้งความดำเดินคดีตามกฎหมาย
ด้าน น ส.รุ่งลาวัณย์ สุขทวี อายุ 32 ปี ป้าของน.ส.เอ กล่าวว่า วันนี้ให้หลานสาวออกไปส่งเงินรายวันให้บังพี กระทั่งช่วงเวลา 13.30 น. ตนเองจึงทักแชตไปหาว่าอย่าลืมเอาเงินไปส่งให้บังพี และกำชับว่าอย่าลืมให้บังเซ็นด้วย จนช่วงเวลา 14.30 น.หลานสาวทักแชตมาหา ขอความช่วยเหลือ ตนเองจึงรีบโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ส่งสายตรวจออกไปอย่างรวดเร็วและช่วยหลานสาวไว้ได้ทันเวลา
ส่วน บังพี รู้จักกับตนเองมาเป็น 10 ปีแล้ว โดยที่ผ่านมา จะกู้ยืมเงินบังพีใช้ แล้วส่งรายวัน โดยบังพี จะเข้ามาเก็บยอดเงินรายวันที่บ้านตลอด แต่ระหว่างเข้ามาเก็บเงินอาจจะสังเกตเห็นหลานสาวที่เพิ่งมาอยู่ได้ไม่กี่เดือน จึงออกอุบายให้นำเงินรายวันไปส่งให้ข้างนอก โดยจะนัดส่งกันหน้าร้านสะดวกซื้อแถวแยกวัดพระญาติ กระทั่งมาเกิดเรื่อง
เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหาอนาจาร และกักขังหน่วงเหนี่ยว
