xs
xsm
sm
md
lg

สุดงง! ชาวบุรีรัมย์มีชื่อโผล่ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่ชัยภูมิเกือบทั้งหมู่บ้าน ไม่เว้นผู้ป่วยติดเตียง เชื่อถูกสวมสิทธิ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - ผญบ. ชาวบ้าน ผู้สูงอายุ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เกือบทั้งหมู่บ้านกว่า 70 คนสุดงงมีชื่อโผล่โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่ จ.ชัยภูมิ ไม่เว้นผู้ป่วยติดเตียง เชื่อถูกนำชื่อสวมสิทธิหาประโยชน์ แห่ขึ้นโรงพักยันความบริสุทธิ์ วอน ตร.หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบหาตัวผู้ลักลอบนำรายชื่อเลขบัตร ปชช. 13 หลักไปใช้ หวั่นตกเป็นเหยื่อนำไปทำสิ่งผิด กม.

วันนี้ (5 ก.ค.) ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงชาวบ้าน และผู้สูงอายุในหมู่บ้านบ้านโคกอาหงวน ต.จรเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ กว่า 70 คน ได้ทยอยเข้าให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบัว เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ หลังจากมีรายชื่อพร้อมเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ไปโผล่เข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ โดยผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน ผู้สูงอายุต่างยืนยันตรงกันว่าไม่เคยสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเลยแม้แต่คนเดียว ยังงงว่ารายชื่อไปโผล่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้อย่างไร และที่น่าแปลกคือมีรายชื่อของผู้ป่วยติดเตียงในหมู่บ้านไปโผล่ในโครงการดังกล่าวที่ จ.ชัยภูมิด้วย ทั้งที่นอนติดเตียงอยู่ที่บ้าน


จึงเชื่อว่าน่าจะมีผู้ไม่หวังดีหรือมิจฉาชีพลักลอบนำรายชื่อและเลขบัตรประชาชน 13 หลักไปสวมสิทธิเพื่อหาผลประโยชน์จากโครงการดังกล่าว โดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องด้วย ซึ่งนอกจากชาวบ้านจะมาให้ข้อมูลเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์แล้ว ยังได้ลงบันทึกเป็นหลักฐานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการฯ ทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งตรวจสอบหาตัวผู้ที่แอบนำรายชื่อและเลขบัตรประชาชน 13 หลักของชาวบ้านไปสวมสิทธิในโครงการดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย เพราะเป็นการสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้แก่บุคคลอื่น และทุจริตโครงการของรัฐ

นายสามารถ ลุนสำโรง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ตน พร้อมชาวบ้านและผู้สูงอายุเกือบทั้งหมู่บ้านที่เข้ามาให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ตามที่มีรายชื่อโผล่ที่ จ.ชัยภูมิ เชื่อว่าน่าจะมีผู้ไม่หวังดีหรือมิจฉาชีพแอบนำรายชื่อและเลขบัตรประชาชน 13 หลักของชาวบ้านไปสวมสิทธิในโครงการดังกล่าวเพื่อหาประโยชน์ส่วนตัว เพราะชาวบ้านในหมู่บ้านไม่มีใครรู้เรื่องโครงการดังกล่าวเลย และที่น่าตั้งข้อสังเกตคือผู้ป่วยติดเตียงก็ยังมีชื่อในโครงการด้วย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ป่วยติดเตียงจะสมัครเข้าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน อยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาตัวผู้ที่กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย


ด้าน นางหลอด พวงพันธ์ อายุ 61 ปี ผู้สูงอายุคนหนึ่ง บอกว่า ตนอยู่บ้านเลี้ยงวัวเลี้ยงควายปลูกผัก ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ก็ยังมีชื่อไปโผล่ในโครงการดังกล่าวว่าไปเที่ยวที่ จ.ชัยภูมิด้วย แปลกใจว่ามีชื่อในโครงการดังกล่าวได้อย่างไร เชื่อว่าน่าจะมีคนแอบเอาชื่อไปสวมสิทธิอย่างแน่นอน

ด้าน นายประกอบ พวงพันธ์ อายุ 30 ปี ชาวบ้านอีกคน บอกว่า ที่ชาวบ้านและผู้สูงอายุทยอยเดินทางมาโรงพักวันนี้ก็เพื่อมาให้ข้อมูลยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่เคยสมัครเข้าร่วมโครงการและไม่เคยไปเที่ยวที่รีสอร์ต จ.ชัยภูมิ ตามที่มีชื่อเลย จึงเชื่อว่ามีผู้ไม่หวังดีหรือมิจฉาชีพแอบนำชื่อและเลขบัตรประชาชน 13 หลักไปสวมสิทธิเพื่อหาประโยชน์จากโครงการดังกล่าว อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ทั้งเกรงว่าจะมีการนำชื่อและเลขบัตรไปกระทำอย่างอื่นที่ผิดกฎหมายด้วย


ด้าน พ.ต.อ.ญาณะธัช ชัยพชรโชติ ผกก.สภ.บ้านบัว ได้ลงมาพูดคุยสอบถามข้อมูลกับชาวบ้าน และได้สั่งการให้กลุ่มงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายในวันนี้เพื่อที่ชาวบ้านจะได้ไม่เสียเวลามารอนาน ซึ่งหลังจากสอบข้อมูลแล้วก็จะส่งไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโรงพักที่ชัยภูมิต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น