บุรีรัมย์ - ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ นำกำลัง ตร.คุมตัวลูกทรพีฆ่าพ่อวัย 72 ปีฝังดินทำแผน อ้างแค้นสะสมพ่อชอบต่อว่าดูถูกขัดขวางไม่ส่งเสริมในสิ่งที่อยากทำ ยอมรับหลังสังหารยังขโมย “บัตรคนจน” พ่อไปจำนำเพื่อเป็นค่ารถหลบหนี เคยใช้ไม้ทำร้ายพ่อจนเข้า รพ. มาแล้ว
วันนี้ (29 มิ.ย.) พ.ต.อ.สุเอก ฉินธนทรัพย์ ผู้กำกับการ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมเกียรติ ลิไธสง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ เจ้าของคดี ได้ควบคุมตัว นายวิเชียร ชาลีผาม หรือตูบ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาฆ่าและฝังอำพรางศพบุพการี คือ นายเป ชาลีผาม อายุ 72 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ ที่บ้านโศกนาก ต.แดงใหญ่ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ โดยจุดแรกคือ บริเวณเตียงนอนภายในบ้าน ที่ผู้ต้องหาสารภาพว่าใช้มีดพร้ากระหน่ำฟันพ่อขณะนอนหลับช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 24 มิ.ย. โดยจำไม่ได้ว่าฟันไปกี่ครั้งกระทั่งพ่อนอนแน่นิ่งคิดว่าเสียชีวิตแล้วจึงนำมีดไปล้างในห้องน้ำ
สักพักได้ยินเสียงพ่อร้องครวญครางจึงคว้ามีดเล่มเดิมไปฟันซ้ำอีกหลายครั้งจนขาดใจตาย แล้วนำมีดไปล้างเพื่อทำลายหลักฐาน แล้วใช้ผ้าปูที่นอนเช็ดเลือดตามพื้น และใช้มุ้งพันแผลที่ศีรษะเพื่อไม่ให้เลือดหยด ก่อนจะลากศพไปฝังอำพรางที่บริเวณหลังบ้านแล้วใช้ทางมะพร้าวปิดทับบนหลุมฝังศพด้วยเพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็น กระทั่งช่วงประมาณตี 5 ของวันที่ 25 มิ.ย.จึงเก็บเสื้อผ้าออกจากบ้าน
จากนั้นก็ขโมยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ของพ่อไปจำนำที่ร้านค้าแห่งหนึ่งใน อ.พุทไธสง รวมกับบัตรของตัวเองด้วยได้เงิน 4,000 บาทเพื่อเป็นค่ารถหลบหนีไปกรุงเทพฯ ซึ่งขณะทำแผนที่บ้านหลังเกิดเหตุก็มีญาติและชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมากเพราะเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญ
ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนที่บริเวณท่ารถในตัวอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ที่ผู้ต้องหาไปซื้อตั๋วและรอขึ้นรถเดินทางไปกรุงเทพฯ ก่อนจะถูกจับกุมตัวในท้องที่ สน.ทุ่งสองห้องเมื่อคืนที่ผ่านมา
จากการสอบถาม นายวิเชียร ผู้ต้องหา บอกว่า สาเหตุที่ฆ่าพ่อเนื่องจากแค้นสะสมที่พ่อชอบต่อว่าและพูดขัดขวางไม่ให้ทำในสิ่งที่อยากทำหลายครั้ง อย่างเช่นตนบอกว่าอยากเป็น ส.ส.พ่อก็ตอบกลับมาว่าให้รอวันตาย เหมือนกับพ่อไม่สนับสนุนส่งเสริมไม่อยากให้ตนเองได้ดีกว่า ทั้งที่ความจริงแล้วพ่อต้องสนับสนุนส่งเสริมลูกตัวเอง จึงคิดว่าหากฆ่าพ่อแล้วคงไม่มีใครมาขัดขวาง แต่รู้สึกผิดและอยากขอโทษพ่อ ซึ่งขณะพูดจบนายวิเชียรได้ยกมือไหว้ขอโทษพ่อด้วย
ด้าน พ.ต.อ.สุเอก ฉินธนทรัพย์ ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาถึงเหตุจูงใจในการฆ่าพ่อตัวเอง ผู้ต้องหาอ้างว่าเกิดจากความเก็บกดและแค้นสะสมที่พ่อไม่ให้กระทำบางสิ่งบางอย่าง จึงเข้าใจว่าพ่อขัดขวางไม่สนับสนุน ซึ่งที่ผ่านมาเคยใช้ไม้ทำร้ายพ่อจนต้องเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว แต่พอโดนบ่นโดนต่อว่าอีกก็เกิดความเก็บกด จึงก่อเหตุฆ่าพ่อเสียชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความบาดหมางระหว่างพ่อลูก ไม่ได้เกี่ยวกับการนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนไปจำนำแล้วไม่แบ่งเงินให้ตามที่มีผู้ให้ข้อมูล แต่ผู้ต้องหายอมรับว่าได้เอาบัตรคนจนทั้งของตัวเองและของพ่อไปจำนำที่ร้านค้าแห่งหนึ่งจริงเพื่อนำเงินไปเป็นค่ารถในการเดินทางหลบหนีไปกรุงเทพฯ
ส่วนที่ญาติให้ข้อมูลว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยทางจิตนั้น ต้องให้แพทย์ตรวจยืนยัน แต่จากการสอบสวนพูดคุย ผู้ต้องหาให้การรู้เรื่อง มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน รู้ว่าตัวเองฆ่าพ่อเสียชีวิต รู้จักอำพรางศพ ต้องดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย
หลังทำแผนเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายวิเชียรกลับไปยังโรงพักเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมประกอบสำนวนคดี โดยเบื้องต้นถูกตั้งข้อหา “ฆ่าบุพการี, ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย” และคาดว่าจะส่งฝากขังศาลจังหวัดบุรีรัมย์ในวันพรุ่งนี้ (30 มิ.ย.)