นครพนม-นครพนมพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 3 ราย เผยเป็นบุคคลมาจากพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด ผู้ว่าฯขอความร่วมมือประชาชนทุกภาคส่วน ให้ความร่วมมือป้องกัน เฝ้าระวังบุคคลมาจากพื้นที่เสี่ยง ให้เข้าสู่ระบบการกักตัว ป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่
วันนี้ (22มิ.ย.) ที่ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงสถานการณ์เกี่ยวกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งวันนี้จังหวัดนครพนมพบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันเพิ่มอีก 3 ราย เป็นบุคคลที่มาจากพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด ทำให้ปัจจุบันมียอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 152 ราย รักษาหายแล้ว 140 ราย กำลังอยู่ระหว่างการรักษา 10 ราย และเสียชีวิต 2 ราย
จากสถิติที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม เก็บผลการปฏิบัติงานมาตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนจนถึงวันนี้ ยังไม่พบการติดเชื้อภายในจังหวัดที่เป็นการแพร่เชื้อจากชาวนครพนมเอง แต่เป็นการพบการติดเชื้อจากผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงแล้วมาแพร่เชื้อต่อให้ชาวนครพนม ซึ่งบางช่วงที่พบจำนวนมาก จะเป็นลักษณะผู้มาจากพื้นที่เสี่ยงมาเป็นหมู่คณะ แต่ด้วยการดำเนินการที่ใช้มาตรการเชิงรุกตั้งแต่เริ่มแรก ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมีความมั่นใจว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
โดยวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้สั่งให้ทุกอำเภอหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อเตรียมประชุมหารือแนวทางขันน๊อตมาตรการเฝ้าระวังผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงให้มากขึ้น ประกอบกับช่วงนี้พบว่ามีนักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกันหลายวัน ดังนั้นจังหวัดนครพนมจึงเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับร้านค้า สถานที่บริการ หารือแนวทางปฏิบัติร่วมกันเพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในวันพรุ่งนี้
สิ่งสำคัญที่สุดในช่วงนี้ คือโรงเรียนเปิดภาคเรียน ซึ่งก็ต้องขอความร่วมมือทุกท่านว่าถ้าบ้านไหนมีคนเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะผู้ปกครองที่มาแล้ว ขอความกรุณาอย่าเพิ่งสวมกอดลูกทันที ให้ปฏิบัติตามมาตรการ เพื่อลดความเสี่ยงคนในครอบครัวรวมถึงชุมชนด้วย
ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้ขอความร่วมมือร่วมกันให้ผู้ติดเชื้อ หรือผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงให้ไหลเข้าสู่ระบบของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมไม่ได้ห้ามใครกลับบ้าน แต่อยากให้ผู้ที่กลับบ้านเข้าสู่ระบบทั้งหมด ถ้าพบว่าป่วยจะได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงที และเป็นการป้องกันที่ดีให้กับทุกคนในสังคมด้วย