โจรใจบาปขโมยพระพุทธรูป 2 องค์ ก่อเหตุ 2 วันซ้อน

เพชรบุรี - โจรใจบาปขโมยพระพุทธรูป 2 องค์ ก่อเหตุ 2 วันซ้อน ขณะที่ผู้รับซื้อนำพระพุทธรูปมาคืนวัด

วันนี้ (17 มิ.ย.) พ.ต.ท.อภิเชษฐ์ ทรัพย์ส่งเสริม รอง ผกก.สส.สภ.ชะอำ นำชุดสืบสวนลงพื้นที่ภายในพระมหาเจดีย์ศรีมหาธาตุ วัดห้วยทรายใต้ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด หลังรับแจ้งจาก พระมหาอุทัย อุทโย เลขาเจ้าอาวาสวัดห้วยทรายใต้ ว่ามีคนร้ายมาขโมยพระพุทธรูปเกจิดังเมืองเพชรบุรี หายไป 2 องค์ คนร้ายก่อเหตุทีเดี่ยวกัน 2 วันติดๆ

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในวัด พบเป็นชายวัยรุ่น 1 ราย อายุ 25-28 ปี สูงประมาณ 160-170 เซนติเมตร ไว้หนวด สวมหมวกดำ สวมหน้ากากปิดบังใบหน้า เสื้อยีนส์แขนยาว กางเกงยีนส์ขายาว ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่นสีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้ามาที่วัดทำทีเข้ามาไหว้พระ ก่อนสบโอกาสขโมยรูปหล่อหลวงพ่อทองสุข อินทโชโต เนื้อทองแดง ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 มิย.64 ที่ผ่านมา จากนั้นในวันที่ 16 มิ.ย.64 คนร้ายรายเดิมได้เข้ามาก่อเหตุขโมยพระพุทธนิมิต พระพุทธรูปทองเหลือง ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ที่วางอยู่ใกล้กับพระพุทธรูปหลวงพ่อทองสุข อีกครั้งก่อนหลบหนีลอยนวล

ทางวัดห้วยทรายใต้ได้โพส์ข้อความและคลิปคนร้ายลงเฟซบุ๊ก ว่า มีคนร้ายมาขโมยพระพุทธรูปหายไป จำนวน 2 องค์ ต่อมา ได้มีหญิงรายหนึ่งสวมชุดขาวห่มขาว อายุประมาณ 40-45 ปี ชาว อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ได้เดินทางมาที่วัดพร้อมนำเอาพระพุทธรูป หลวงพ่อทองสุข เนื้อทองแดง และพระพุทธนิมิต ทองเหลือง ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว จำนวน 2 องค์ ที่ถูกคนร้ายขโมยไปมาคืนให้ทางวัด

โดยหญิงคนดังกล่าว อ้างว่า แฟนของตนได้รับจำนำพระพุทธรูปทั้ง 2 องค์จากวัยรุ่นรายหนึ่งเมื่อว่านที่ผ่านมา ไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่ คนร้ายได้บอกแฟนตนว่าไม่มีเงินให้ลูก พอมาวันนี้เพื่อนบ้านได้เอาเฟซบุ๊กที่ทางวัดห้วยทรายใต้โพสต์ข้อความว่าพระพุทธรูปถูกขโมยไปให้ตนดู ตนเห็นโพสต์จึงรู้ทันทีว่าพระทั้ง 2 องค์เป็นของวัดแน่นอน จึงรีบติดต่อทางวัด และนำพระพุทธรูปทั้ง 2 องค์มาคืนให้ทางวัดห้วยทรายใต้ทันที

ขณะที่ทางด้าน พระมหาอุทัย อุทโย เลขาเจ้าอาวาสวัดห้วยทรายใต้ กล่าวว่า กรณีคนร้ายวัยรุ่นที่ก่อเหตุเข้ามาขโมยพระพุทธรุปขอให้เป็นหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ส่วนหญิงที่นำพระพุทธรูปทั้ง 2 องค์มาคืนทางวัดไม่ได้ติดใจอะไร และขอคุณหญิงคนดังกล่าวด้วยที่นำพระพุทธรูปมาคืนให้ทางวัด

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป