ศูนย์ข่าวศรีราชา - ปิดฉากคดีลุงวิศวะยิงวัยรุ่นดับหน้าครกใหญ่อ่างศิลา ศาลฎีกาแก้โทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน ให้รอการลงอาญา 3 ปี ส่วนคดีแพ่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 3.4 แสนบาท
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดชลบุรี ได้นัดอ่านคำพิพากษาในชั้นศาลฎีกา คดีที่ นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 56 ปี วิศวกรบริษัทแห่งหนึ่งเป็นจำเลยในความผิดฐานพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังก่อเหตุยิง นายนวพล ผึ่งผาย หรือปอนด์ อายุ 17 ปี จากเหตุวิวาทเรื่องที่จอดรถเหตุเกิดใกล้ตลาดอ่างศิลา จ.ชลบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 ก.พ.2560
โดยศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีโทษจำคุก 15 ปีแต่ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือจำคุก 10 ปี ขณะที่ความผิดฐานพาอาวุธปืน ปรับ 4,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 2,000 บาท รวมจำคุก 10 ปี และปรับ 2,000 บาท และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับตั้งแต่วันยื่นคำร้องขอเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้องจำเลยฎีกา
โดยมี นายวันชัย แสงสุวรรณ์ ทนายฝ่ายผู้เสียชีวิตเป็นตัวแทนฝ่ายโจทก์เดินทางมารับฟังคำพิพากษาศาลฎีกา แต่ นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ หรือลุงวิศวะ ไม่ได้เดินทางมารับฟังคำพิพากษา และผู้พิพากษาได้กระทำตามกระบวนการของกฎหมายคือสั่งริบเงินประกันจำนวน 874,000 บาท พร้อมออกหมายจับ นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ หรือลุงวิศวะ และหากภายใน 1 เดือนจับกุมตัวได้ให้คุมตัวมาฟังคำพิพากษาในวันที่ 17 มิ.ย.2564 นั้น
วันนี้ (17 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ หรือลุงวิศวะ ก็ยังคงไม่เดินทางมารับฟังคำพิพากษาศาลฎีกาเช่นเคย จึงทำให้ศาลต้องอ่านคำพิพากษาลับหลังในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 15 ปีลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 10 ปี
ส่วนความผิดฐานพาอาวุธปืน ปรับ 4,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 2,000 บาท รวมจำคุก 10 ปี และปรับ 2,000 บาท ยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของผู้ร้อง ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันยื่นคำร้องขอเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้องโจทก์และจำเลยอุทธรณ์
แต่ได้พิพากษาแก้เป็นว่า ฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุจำคุก 5 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 และเมื่อรวมกับโทษในความผิดฐานพาอาวุธปืนแล้ว รวมจำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 2,000 บาท
โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี คุมความประพฤติ 2 ปี รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน ให้จำเลยไปเข้ารับการฝึกอบรมที่เกี่ยวกับการระงับควบคุมอารมณ์ที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน และให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์มีกำหนด 30 ชั่วโมง
ขณะที่ทนาย และมารดาผู้เสียชีวิตได้เปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาว่า ขอยอมรับในคำวินิจฉัยของศาล ส่วนคดีแพ่งต้องรอดูอีกครั้งว่าคู่กรณีจะทำการชดใช้เมื่อใด
