ศูนย์ข่าวขอนแก่น - นายกเทศมนตรีนครขอนแก่นเผยพร้อมจัดซื้อวัคซีนทางเลือก “ซิโนฟาร์ม” จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เบื้องต้น 100,000 โดสบริการฉีดป้องกันโรคห่าโควิด-19 ให้ชาวชุมชน คาดใช้เวลาเตรียมการขั้นตอนต่างๆ ราว 2 เดือน
วันนี้ (15 มิ.ย.) นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวถึงแผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกเพื่อบริการฉีดให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่นว่า ขณะนี้ได้เตรียมการตามขั้นตอนต่างๆ เช่น สำรวจจำนวนประชาชนผู้มีสิทธิตามรายชื่อทะเบียนราษฎรและกลุ่มประชากรแฝง ต้องตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าสามารถฉีดวัคซีนให้ได้หรือไม่
รวมถึงตรวจความซ้ำซ้อนประชาชนที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม กับผู้ที่มีความประสงค์จะฉีดวัคซีนกับทางเทศบาลฯ รายชื่อผู้รับวัคซีนจะต้องไม่ซ้ำกัน เพื่อให้การบริหารจัดการวัคซีนมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ภารกิจดังกล่าวจะต้องบูรณาการการทำงานร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น และคณะแพทยศาสตร์ มข. ในเรื่องสถานที่ บุคลากรทางการแพทย์ที่จะทำหน้าที่ฉีดวัคซีนให้ประชาชน รวมถึงค่าใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินการ สถานที่เก็บรักษาวัคซีน การเยียวยาหากผู้ได้รับวัคซีนเกิดผลข้างเคียง ฯลฯ
“หลังจากดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จะนำเสนอขออนุมัติต่อผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่นต่อไป” นายธีระศักดิ์กล่าว และว่า
นายธีระศักดิ์กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องทำคู่ขนานกันไป คือการประสานกับแหล่งจัดซื้อวัคซีนคือราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งกำลังเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อจองวัคซีนซิโนฟาร์ม โดยเบื้องต้นเทศบาลนครขอนแก่นตั้งเป้าจองไว้ที่ 100,000 โดส ส่วนวิธีการ ขั้นตอนต้องเป็นไปตามระเบียบราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และต้องตรวจสอบว่าระเบียบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรื่องการจัดซื้อ จัดจ้าง สามารถดำเนินการได้หรือไม่และติดขัดเรื่องใดบ้าง และจะทราบผลอีกทีเมื่อผ่านการอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น แล้วเข้าสภาเทศบาลเพื่อขออนุมัติงบประมาณในการดำเนินการ คาดว่าน่าจะใช้เวลากระบวนการต่างๆ ราว 2 เดือน
ด้าน นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้กับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นว่า ได้ให้บริการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน ซึ่งจำแนกตามกลุ่มเป้าหมายไปแล้วจำนวน 67,367 ราย จากจำนวนที่ตั้งเป้าฉีดให้ได้ 70% ของผู้มีรายชื่อในทะเบียนราษฎรจำนวน 1,256,172 ราย
โดยจำแนกผู้ที่ได้รับวัคซีนตามกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 39,115 ราย เจ้าหน้าที่ด่านหน้า จำนวน 10,225 ราย
ขณะที่ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดไปแล้ว 10,980 ราย บุคคลที่มีโรคประจำตัว จำนวน 3,408 ราย และประชาชนทั่วไป จำนวน 3,635 ราย โดยในจำนวนนี้แยกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกจำนวน 49,573 ราย และได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มจำนวน 17,794 ราย โดยฉีดวัคซีนซิโนแวคไป จำนวน 51,182 โดส และแอสตร้าเซนเนก้าจำนวน 16,185 โดส