บุรีรัมย์ - เผาแล้ว! “น้องปลื้ม” เหยื่อรุ่นพี่โหด มีคณาจารย์ ศิษย์เก่ารุ่นพี่และเพื่อนร่วมสถาบัน “อุเทนถวาย” แห่ไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายและร่วมส่งดวงวิญญาณน้องปลื้มสู่สรวงสวรรค์ ขณะพี่ชายร้องไห้แทบเป็นลม ด้านเพื่อนสนิทระบุอยากให้ลงโทษแก๊งรุ่นพี่โหดตามกม.ให้ถึงที่สุด จะได้ไม่เกิดเหตุร้ายแก่ใครอีก
วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่วัดเก่าหนองกี่ ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพ นายวีรพัฒน์ ตามกลาง หรือน้องปลื้ม อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย รุ่น 89 แผนกวิศวกรรมก่อสร้าง ที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายขณะเตรียมจัดงานรับน้องเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 64 ที่ผ่านมา จนอาการสาหัส รักษาตัวที่โรงพบาบาลนาน 8 วัน ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2564
โดยมีญาติพี่น้อง ตัวแทนจากทางมหาวิทยาลัย คณาจารย์ ศิษย์เก่า รุ่นพี่ และเพื่อนๆ สถาบันเดียวกัน เดินทางมาร่วมไว้อาลัยน้องปลื้มเป็นครั้งสุดท้าย บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะนางมนัสนันท์ และนายวีรพงษ์ มารดา และพี่ชายน้องปลื้ม ยังอยู่ในอาการเศร้าโศก ทั้งนี้ ช่วงที่พี่ชายเป็นตัวแทนกล่าวประวัติของน้องปลื้ม ก็อ่านด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทั้งช่วงที่เปิดโลงศพให้ญาติและเพื่อนดูหน้าเป็นครั้งสุดท้าย และให้ล้างหน้าศพก่อนจะฌาปนกิจ นายวีรพงษ์ พี่ชายก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจเพราะทำใจไม่ได้ที่สูญเสียน้องชายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งคนในงานต้องมาคอยประคองตัวเอาไว้เพราะกลัวนายวีรพงษ์จะเป็นลม เช่นเดียวกับแฟนสาวก็ได้ยื่นมือไปจับมือและใบหน้าของ “น้องปลื้ม” ด้วยความอาลัยที่ต้องสูญเสียคนที่รักไป
จากนั้นบรรดาศิษย์เก่า รุ่นพี่ และเพื่อนร่วมสถาบันที่มาร่วมงานฌาปนกิจ ยังได้ร่วมกันร้องเพลงประจำสถาบันที่บริเวณหน้าเมรุ เพื่อเป็นการแสดงความอาลัยและส่งดวงวิญญาณน้องปลื้มสู่สรวงสวรรค์ด้วย แต่จากการสอบถามญาติและเพื่อนๆ ต่างบอกว่าไม่เห็นรุ่นพี่ที่ทำร้ายน้องมาร่วมงานฌาปนกิจศพ ซึ่งอาจกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย
นายวีรพงษ์ พี่ชายน้องปลื้ม พูดทั้งน้ำตาว่า วันนี้เป็นวันที่ส่งดวงวิญญาณน้องสู่สรวงสวรรค์ ได้บอกกับดวงวิญญาณของน้องว่า ขอให้น้องไปสู่ภพภูมิที่ดีไปใช้ชีวิตให้มีความสุขในภพภูมินั้น ภพภูมินี้พี่ชายคนนี้จะดูแลแม่เป็นอย่างดีไม่ต้องเป็นห่วง สำหรับความรู้สึกวันนี้ถามว่าดีใจไหมที่เห็นพี่ๆ และเพื่อนๆ ของน้องมาเป็นจำนวนมากก็ดีใจ แต่ถามว่าอยากให้มางานแบบนี้ไหมไม่อยากให้มางานแบบนี้ และที่รู้สึกเสียใจมากที่สุดคือไม่ได้มีโอกาสแม้แต่จะกล่าวคำลาน้องสักคำ เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะส่งแชตหากันไม่ค่อยได้โทร.พูดคุยกัน ได้เจอพูดคุยกันครั้งสุดท้ายตอนสงกรานต์ที่ผ่านมา แต่พอแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของแต่ละคนก็มีแต่แชตหากัน พอมาเจอกันอีกทีก็ตอนที่น้องอยู่ รพ.ในสภาพหมดสติไม่รับรู้อะไรแล้ว แต่พี่ชายคนนี้ได้ทำหน้าที่เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับน้องจนถึงที่สุดแล้ว ส่วนเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ด้าน นายปริญญา สงสายออ เพื่อนสนิทของน้องปลื้ม ที่เคยเรียนเทคนิคนครราชสีมาด้วยกัน บอกว่า สนิทกับปลื้มมา 7 ปีแล้ว ตั้งแต่ตอนเรียนที่เทคนิคโคราช และถึงแม้ปลื้มจะย้ายไปเรียนที่อุเทนถวายก็ยังติดต่อไปมาหากันตลอด เวลาปลื้มกลับมาก็จะให้ตนไปรับ รู้สึกเสียใจมากที่เพื่อนต้องมาจบชีวิตแบบนี้ ทั้งที่เขาตั้งใจและใฝ่ฝันมากว่าอยากจะไปเรียนที่สถาบันแห่งนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ลงโทษรุ่นพี่ที่ทำร้ายปลื้มตามกฎหมายให้ถึงที่สุดจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้แก่ใครอีก
