xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มมหาสารคามร้องสื่อ! เมียฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ เกิดอาการข้างเคียงหามส่งโรงหมอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มหาสารคาม - สามีร้องสื่อภรรยาวัย 41 ปีฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 astrazeneca แล้วมีอาเจียน แน่นหน้าอกต้องหามส่งโรงพยาบาล ล่าสุดต้องเจาะไขสันหลัง เผยไม่ได้อยากเรียกร้องเยียวยาจากรัฐขอแค่เมียปลอดภัย ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ ด้านนายอำเภอพาคณะเข้าเยี่ยมพร้อมปลอบให้กำลังใจ


รายงานข่าวแจ้งว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กในบัญชีชื่อ พิษณุกัณร์ สุรินทร์ โพสต์ข้อความว่า สอบถามผู้รู้ครับ หลังจากที่แม่บ้านผมไปฉีดวัคซีนป้องกัน covid-19 ยี่ห้อ astrazeneca ที่โรงพยาบาลกันทรวิชัย วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00.38 น. หลังจากนั้นเวลา 21.00 น.โดยประมาณ ภรรยาผม (นางกิ่งแก้ว สุรินทร์) มีอาการไข้ หนาวสั่น เวียนหัว อาเจียน แน่นหน้าอก และปวดหัวอย่างมาก และมีแนวโน้มว่าจะเจาะไขกระดูกสันหลังเพื่อดูว่าเยื่อหุ้มในสมองอักเสบหรือเปล่า อาการยังน่าเป็นห่วงครับ ทั้งๆ ที่โรคประจำตัวไม่มี และมีร่างกายแข็งแรงสามารถทำงานได้อย่างปกติทุกอย่างครับ

ผมต้องทำยังไงร้องเรียนได้ที่ไหนหรือปรึกษาใครได้ครับ ขณะนี้ทำการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาสารคามครับ เบอร์โทร.ผม 08-7230-3212 น้ากล้า ขอความอนุเคราะห์ทุกท่านช่วยชี้แนะด้วยครับ...หลังจากนั้นสังคมออนไลน์ได้เแชร์โพสต์ออกไปจำนวนมาก


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 4 บ้านท่าขอนยาง ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย พบกับ นายพิษณุกัณร์ สุรินทร์ อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว พร้อมกับนายก่อเกียรติ สุรินทร์ ลูกชาย อายุ 18 ปี โดยทั้งคู่ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา พ่อ ลูกชาย และนางกิ่งแก้ว สุรินทร์ อายุ 41 ปี สามคนพ่อแม่ลูกได้เดินทางไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่โรงพยาบาลกันทรวิชัย โดยลงทะเบียนผ่านทาง อสม.ในพื้นที่ ความเสี่ยงคือโรคอ้วน ซึ่งสมัครใจฉีด เพราะต้องการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองและสังคม

โดยนางกิ่งแก้วได้รับวัคซีนตอนเวลา 09.38 นาที ต่อมามีอาการเป็นไข้ หนาวสั่น ตัวชา มือชา แน่นหน้าอก อาเจียน และปวดศีรษะมาก จนครอบครัวเห็นว่าอาการไม่น่าไว้วางใจ จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลมหาสารคาม เมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ของคืนวันที่ 7 มิ.ย. เบื้องต้นแพทย์แจ้งว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับวัคซีน แต่ตนเองและลูกชายมั่นใจว่าเป็นผลจากวัคซีนแน่นอน เพราะว่าเจ้าตัวมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วย ไม่มีโรคประจำตัว ไม่เคยถึงขั้นที่จะต้องนอนโรงพยาบาล

นายพิษณุกัณร์เล่าอีกว่า หลังฉีดวัคซีนผลข้างเคียงที่ตัวเองได้รับคือมีอาการแน่นหน้าอกตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นมาก ส่วนลูกชายก็มีอาการแน่นหน้าอกเช่นเดียวกัน และปวดแขนข้างที่ฉีด ซึ่งอาการก็ดีขึ้นตามลำดับ มีเพียงแต่ภรรยาที่อาการหนักที่สุด


นายพิษณุกัณร์บอกว่าตลอดระยะเวลา 2 วันที่ผ่านมาไม่ทราบว่าภรรยาอาการเป็นอย่างไรบ้าง เพราะทางโรงพยาบาลห้ามเยี่ยม มีเพียงให้โทรศัพท์สอบถามอาการได้ตั้งแต่เวลา 12.00-14.00 น.เท่านั้น พอโทร.ไปทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าไม่สะดวก ซึ่งตนก็เข้าใจว่าแพทย์ พยาบาลทำงานหนัก แต่หัวอกของญาติผู้ป่วยก็อยากรู้ว่าตอนนี้อาการผู้ป่วยเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. แพทย์แจ้งว่าจะต้องเจาะไขสันหลัง เพื่อดูว่าภรรยามีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือไม่ ซึ่งตนและลูกชายก็ได้เข้าไปเซ็นใบยินยอมให้รักษา มีโอกาสได้เห็นหน้าแค่แป๊บเดียว ไม่ได้คุยอะไรมาก

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้รับแจ้งว่าอาการของผู้ป่วยดีขึ้น แต่ตนก็ยังไม่วางใจว่าดีขึ้นขนาดไหน เพราะไม่ได้เห็นเองกับตา ตอนนี้มีความกังวลหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของค่าใช้จ่าย เพราะได้ยินมาว่าหากอาการป่วยของนางกิ่งแก้วไม่ได้เกิดจากวัคซีนจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นหรือไม่ หรือหากเกิดจากวัคซีนจะมีการเยียวยาอย่างไร แนวทางการรักษาคนไข้จะทำอย่างไร เหตุผลที่โพสต์ลงโลกออนไลน์ก็เพื่อต้องการสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะโจมตีใคร


“พวกเราเข้าใจว่าแพทย์ พยาบาล ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ก็ทำงานหนักกันอยู่แล้ว หากเลือกได้ก็ไม่อยากที่จะได้เงินเยียวยาหรืออะไรก็ตาม แต่อยากให้ภรรยาไม่ต้องมาเจอผลข้างเคียง ไม่ต้องเจ็บป่วยเป็นดีที่สุด” นายพิษณุกัณร์กล่าว

มีรายงานว่า ล่าสุด นายแศรษฐา เณรสุวรรณ นายอำเภอกันทรวิชัย พร้อมด้วย นายประเสริฐ ไหลหาโคตร์ สาธารณสุขอำเภอกันทรวิชัย นางศุจีนันนท์ บุตราช นายกเทศมนตรีตำบลท่าขอนยาง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม.ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนให้กำลังใจครอบครัวของนางกิ่งแก้ว สุรินทร์ พร้อมแจ้งความคืบหน้าของอาการ และทำความเข้าใจ เพื่อให้ทางครอบครัวคลายความกังวล พร้อมมอบกระเช้าเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ครอบครัวผู้ป่วย


กำลังโหลดความคิดเห็น