บุรีรัมย์ - แม่ชาวหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรมลูกชายนักศึกษา ชั้นปี 2 มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน กรุงเทพฯ ถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายซี่โครงหัก อกช้ำ ขณะเตรียมจัดกิจกรรมรับน้อง เหตุเพียงเพราะไม่ช่วยตอบแชตรุ่นน้องในกลุ่มไลน์ ถูกหามส่ง รพ.รักษาตัว 8 วันเสียชีวิต พร้อมเปิดคลิปลูกถูกหามลงจากอาคารคณะฯ ในสภาพหมดสติ แม่เผยความฝันลูกชายอยากเป็นศิษย์อุเทนถวายไม่คิดจะมาจบชีวิต
วันที่ 8 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากครอบครัว "ตามกลาง" ว่า ลูกชายซึ่งกำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งที่กรุงเทพมหานคร ได้ถูกรุ่นพี่สถาบันเดียวกันทำร้ายร่างกาย จนเกิดอาการช็อกถูกหามส่ง รพ. รักษาตัวอยู่ 8 วันสุดท้ายเสียชีวิต ล่าสุดครอบครัวได้นำร่างของน้องกลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่ ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดแล้ว
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 16 หมู่ 3 ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของนายวีรพัฒน์ ตามกลาง หรือปลื้ม อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศกรรมโยธา อุเทนถวาย รุ่น 89 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ได้พบกับ นางมนัสนันท์ ตามกลาง อายุ 57 ปี แม่ของน้องปลื้ม พร้อมด้วย นายวีรพงษ์ ตามกลาง อายุ 27 ปี พี่ชาย ซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจเพราะยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ทั้งกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีที่เกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้ ครอบครัวยังได้นำคลิปภาพวงจรปิดขณะเพื่อนของน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ได้หามน้องซึ่งอยู่ในสภาพหมดสติลงมาจากอาคารคณะที่น้องเรียนเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย
นางมนัสนันท์ ผู้เป็นแม่ เล่าให้ฟังว่า เมื่อเช้ามืดวันที่ 28 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมาเพื่อนของน้องได้โทรศัพท์มาบอกว่าลูกชายล้มจากเก้าอี้แล้วเกิดอาการชักเกร็งขณะนั่งคุยกับเพื่อนในคณะฯ เมื่อคืนวันที่ 27 พ.ค. และได้พากันนำตัวส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว กรุงเทพฯ จึงรีบโทร.บอกพี่ชายที่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ให้รีบไปดูน้องที่โรงพยาบาลแล้วแม่ก็เดินทางตามไป เมื่อไปถึงโรงพยาบาลเห็นลูกชายอยู่ในห้องไอซียูในสภาพถูกมัดมือมัดเท้าเพราะมีอาการชักเกร็ง แต่ไม่สามารถพูดคุยสื่อสารอะไรได้เพราะใส่ท่อช่วยหายใจ ซึ่งได้นอนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว 5 วัน จึงขอให้ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้แค่ 3 วันน้องก็เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. เวลาประมาณ 22.00 น.
โดยหลังพบว่าอาการของน้องทรุดลงตามลำดับ จึงตัดสินใจขอย้ายน้องมารักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หลังจากรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวเฉียวถึง 5 วัน แต่เมื่อมารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชฯเพียง 3 วัน โดยตอนแรกหมอบอกว่า ซี่โครงซี่ที่ 3 หัก หน้าอกช้ำ ปอดติดเชื้อ จึงเชื่อว่าลูกชายน่าจะถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
จึงพยายามสอบถามกับเพื่อนๆ และรุ่นพี่ที่อยู่ในเหตุการณ์ ตอนแรกไม่มีใครกล้าบอกเพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย กระทั่งลูกชายคนโตไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดจึงได้หลักฐานสำคัญมา ประกอบกับมีข้อความพูดคุยในกลุ่มไลน์ว่าลูกชายถูกทำร้ายขณะเตรียมจัดกิจกรรมรับน้อง สาเหตุเพียงเพราะไม่ช่วยตอบแชตรุ่นน้องในกลุ่มไลน์ และเบื้องต้นมีรุ่นพี่ 6 คนมากราบขอโทษตนเองที่โรงพยาบาล แต่ตอนนั้นยังไม่พร้อมพูดคุยอะไรเพราะยังตกใจและเสียใจที่สูญเสียลูก แต่ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการเอาผิดต่อคนที่กระทำให้ลูกเสียชีวิตให้ถึงที่สุด และอยากวิงวอนให้ทางสถาบันออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
แม่น้องปลื้มบอกอีกว่า เป้าหมายของน้องตอนจบ ปวช.ที่เทคนิคนครราชสีมา คืออุเทนถวาย ซึ่งตอนจบ ปวช.น้องก็เคยแอบไปสอบ ซึ่งแม่ก็ห้ามไว้พยายามดึงน้องให้เรียนที่นครราชสีมาจนจบ ปวส.เทคนิค แต่พอน้องได้ไปฝึกงานเป็นโฟร์แมนที่แคมป์คนงานหัวทะเล แล้วไปเจอรุ่นพี่จากอุเทนถวายก็ยิ่งมาจุดประกายความฝันของน้องให้อยากไปเรียนที่อุเทนถวายอีก ซึ่งในฐานะคนเป็นแม่ แต่ลูกได้เลือกแล้ว ทั้งที่ในใจกลัวมากเพราะชื่อเสียงของอุเทนเป็นอย่างไรแม่รู้ดี แต่ลูกพูดออกมาคำหนึ่งว่า “นายคงไม่ใช่หนึ่งในนั้นหรอกแม่ สถาบันอุเทนรักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง ที่ปลอดภัยสำหรับนายคืออุเทนถวาย นายมั่นใจ” นี่คือคำพูดของลูก
แต่มาวันนี้เกิดความสูญเสีย เป็นลูกชายคนเล็กซึ่งเป็นความหวังของครอบครัว มันไม่มีอะไรมาทดแทนได้กับการสูญเสียลูก ซึ่งเขาแค่อยากตามความฝันในการก้าวเข้าไปศึกษาที่อุเทนถวาย ซึ่งลูกชายยอมรับเงื่อนไขในระบบรุ่นพี่รุ่นน้องเขายอมรับทุกอย่าง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่น้องถูกกระทำน้องถูกกระทำมาตลอด
ในฐานะคนเป็นแม่อยากร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย โดยขอให้ทางสถาบันออกมาแสดงความรับผิดชอบ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อคนที่ทำร้ายลูกชายให้ถึงที่สุด เพราะการเสียชีวิตของลูกแม่ไม่ได้อะไรกลับคืนมา แต่แม่ขอทำหน้าที่แม่คนหนึ่งที่เจ็บปวดที่สุดต่อการเสียชีวิตของลูกไม่มีอะไรมาทดแทนได้