xs
xsm
sm
md
lg

รวบหลานฆ่าลุง โบกปูนปิดทับแค้นเบี้ยวเงินค่าแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สระบุรี – รวบหลานฆ่าลุง ตังเอง แล้ว โบกปูนปิดทับ รับสารภาพ ทำๆไปเพราความแค้น อ้างเบี้ยวเงินค่าแรงทำงาน โดยจะเอาไปจ่ายหนี้สิน หลังไปยืนเงินไปแต่งงาน

วันนี้( 8 มิ.ย.) บช.ภ.1 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1 ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.ศุภากรณ์ จันทาบุตร รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี พ.ต.อ.จิรัฎฐ์ ดอกไม้ผกก.กก.สส.ภ.จว.สระบุรี แถลงข่าวจับกุมหลานฆ่าลุงโบกปูนปิดทับ ภายในบ้านไม่ทราบเลขที่ หมู่ 9 ต.หนองปลาไหล อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี

พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ผ่านศูนย์วิทยุสื่อสาร แจ้งว่าพบกองปูนซีเมนต์โบกปิดทับคล้ายรูปคน และมีกลิ่นเน่าเหม็น อยู่ในห้องนอน ภายในบ้านไม่ทราบเลขที่ หมู่ 9 ต.หนองปลาไหล อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระบุรี ร่วมกับเจ้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดสระบุรี และแพทย์เวรโรงพยาบาลสระบุรี

โดยได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว เมื่อไปถึงพบ นายคงฤทธิ์ หวาดด้วงดี ลูกเขยผู้ตาย และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูสระบุรียืนรออยู่บริเวณ หน้าบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว จากนั้นเจ้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดสระบุรี ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานแวดล้อมภายในห้องนอน และบริเวณโดยรอบที่เกิดดังกล่าว และได้ตรวจพิสูจน์กองปูนซีเมนต์โบกปิดทับคล้ายรูปคน พบศพผู้เสียชีวิต เพศชาย ลักษณะเน่าเปื่อย คือ นายไพโรจน์ พรหมเมือง เก่า อายุ 55 ปี ถูกปูนซีเมนต์โบกปิดทับ อยู่ในห้องนอน ภายในบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ ได้ออกสืบสวนติดตามและได้นำตัวพยานและผู้ต้องสงสัยมาซักถามปากคำ ต่อมาสืบสวนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้ คือ นายอานุภาพ กัญญาคำ อายุ 29 ปี เป็นหลานผู้ตาย เป็นผู้ก่อเหตุ จึงได้ติดตามตัว นายอานุภาพ และพบพยานหลักฐาน ที่ใช้ในการก่อเหตุและทรัพย์สินที่เชื่อว่ามาจากการกระทำความผิด จึงได้ทำการจับกุมตัว แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และลักทรัพย์ของผู้อื่น” และ แจ้งสิทธิตามกฎหมาย พร้อมของกลางไม้ที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 1 ท่อนถุงปูนซีเมนต์ จำนวน 2 ถุงโทรทัศน์จำนวน 1 เครื่องพัดลมตั้งโต๊ะ จำนวน 1 ตัว ตู้เย็นจำนวน 1 เครื่องสมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 3 เล่ม สร้อยคอทองคำขนาด 1 บาท รถยนต์ยี่ห้อ Nissan รุ่น Navara

พล.ต.ท.อำพล กล่าวถึงพฤติการณ์ในคดีว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อประมาณเดือน พ.ย.63 นายอานุภาพ ทำงานรับเหมาก่อสร้างกับนายไพโรจน์ ผู้ตาย แล้วเสร็จประมาณ เดือน ม.ค.64 ต่อมาเมื่อประมาณเดือน มี.ค. นายอานุภาพ ได้ทวงถามเงินค่าจ้างส่วนที่ตนเองจะได้รับ กับนายไพโรจน์ เป็นเงินจำนวน 30,000 บาท 3 ครั้ง แต่นายไพโรจน์ บ่ายเบี่ยง ไม่ให้เงินส่วนนี้ต่อมาเดือน เม.ย. นายอานุภาพ ได้ทวงถามค่าจ้าง กับนายไพโรจน์อีก 4 ครั้ง แต่นายไพโรจน์ บ่ายเบี่ยง ไม่ให้เงินที่ติดค้าง

จากการสอบสวนนายอานุภาพ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. เวลาประมาณ 06.30 น. ตนเข้าไปพบนายไพโรจน์ ที่บ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว จากนั้นได้หยิบไม้ 1 ท่อน เส้นผ่าศูนย์กลางยาวประมาณ 6 ซม. ความยาวประมาณ 80 ซม. ซึ่งวางอยู่บริเวณหน้าบ้านดังกล่าวติดมือเข้าไปภายในบ้าน จากนั้นตนเองได้เปิดประตูบ้านและเปิดประตูห้องนอนของนายไพโรจน์ เห็นนายไพโรจน์ ตื่นและนั่งอยู่บนที่นอน จึงใช้ไม้ตีเข้าไปบริเวณศีรษะ ของนายไพโรจน์ จำนวน 1 ครั้ง ตนเห็นว่านายไพโรจน์ สลบล้มลงบนที่นอน จึงใช้ไม้ตีซ้ำเข้าไปบริเวณลำคอ อีก 1 ครั้ง

จนกระทั้งแน่ใจแล้วว่า นายไพโรจน์เสียชีวิต ตนเองจึงได้ปิดล็อกห้องนอนที่เกิดเหตุดังกล่าว และหลบหนีออกมา หลังเกิดเหตุวันที่ 23 เม.ย.เวลาประมาณ 12.00 น. ไปซื้อปูนซีเมนต์ จากร้านวัสดุภัณฑ์ใกล้เคียงที่เกิดเหตุจำนวน 2 ถุง และนำมาผสมที่บ้านที่เกิดเหตุ เพื่อปิดทับ อำพรางศพนายไพโรจน์ผู้ตาย จากนั้นได้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ จนกระทั้ง วันที่ 7 มิ.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมนายอานุภาพ ซึ่งให้การรับสารภาพนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ท.อำพล กล่าวอีกว่า สาเหตุจูงใจ ที่ผู้ต้องหาประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้ตายเนื่องจากต้องนำเงินไปชำระหนี้หลังจัดงานแต่ง เมื่อ วันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ประกอบกับผู้ตายค้างค่าแรงจากการรับเหมาก่อสร้างร่วมกัน เมื่อติดตามทวงถามผู้ตายไม่จ่ายค่าแรงและบ่ายเบี่ยง และเรื่องความแค้นส่วนตัวเนื่องจากผู้ตายมักใช้คำพูดรุนแรงกับผู้ต้องหา








กำลังโหลดความคิดเห็น