บุรีรัมย์ - หนุ่มวัย 42 ชาว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ฉุนถูกเพื่อนบ้านตามด่าถึงบ้านเหตุไถนาเหยียบต้นข้าว แย่งมีดตะขอกระหน่ำฟันหัว 3 แผล หลัง 2 แผลดับคาบ้าน พบประวัติเคยมีปากเสียงกับเพื่อนบ้านปมไถนาคนอื่นจน ตร.ต้องตักเตือนมาแล้ว ไม่คาดคิดครั้งนี้จะรุนแรงถึงขั้นฟันเสียชีวิต
วันนี้ (7 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ภาสกร โพธิ์ขำ สารวัตร (สอบสวน) สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 39 ม.8 ต.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ โดยผู้ก่อเหตุยังอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.สมยศ ฟื้นชัยภูมิ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.พุทไธสง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลพุทไธสง และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุด อ.พุทไธสง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนยกพื้นสูงอยู่ระหว่างก่อสร้าง บริเวณโรงจอดรถไถใต้อาคาร พบศพ นายสมศักดิ์ กวดไธสง อายุ 59 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณพื้นดิน ในสภาพนอนคว่ำหน้า ศีรษะมีรอยถูกของมีคมฟันเป็นแผลฉกรรจ์ลึกถึงก้านสมอง จำนวน 3 แผล และบริเวณด้านหลังอีก 2 แผล ทั้งนี้ในที่เกิดเหตุยังพบนายสมเกียรติ สูนย์ไธสง อายุ 42 ปี เจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุกระหน่ำฟันนายสมศักดิ์เสียชีวิต ยังถือมีดตะขอรวมด้ามยาวประมาณ 61 เซนติเมตรเปื้อนเลือด เดินวนเวียนไปมาอยู่ภายในบ้าน จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.พุทไธสง
จากการสอบสวน นายสมเกียรติให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดกระหน่ำฟันนายสมศักดิ์เสียชีวิตจริง สาเหตุเนื่องจากไม่พอใจนายสมศักดิ์ ผู้ตายซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่มีที่นาติดกัน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์บุกมาต่อว่าตนเองถึงที่บ้านเรื่องที่ตนขับรถไถไปเหยียบต้นข้าวในนาเป็นทางยาวกว่า 200 เมตร แต่นายสมเกียรติอ้างว่าที่นาดังกล่าวเป็นของตนเองเพราะซื้อแล้วจะทำอะไรก็ได้ จนเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง แล้วอ้างว่าขณะโต้เถียงกันเห็นนายสมศักดิ์ ผู้ตายหยิบมีดตะขอจะเข้ามาทำร้ายตนเอง จึงคว้าเสียมตีเข้าไปที่หลังจนมีดตะขอหลุดจากมือนายสมศักดิ์ จึงแย่งมีดไปกระหน่ำฟันที่ศีรษะนายสมศักดิ์ 3 ครั้งจนนอนแน่นิ่งเลือดอาบเสียชีวิต
จากข้อมูลยังพบว่า เมื่อปีที่แล้ว นายสมเกียรติเคยขับรถไถนาไปไถนาของคนอื่นแล้วอ้างว่าเป็นที่นาของตัวเองจนมีเรื่องทะเลาะกันและเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตักเตือนมาแล้ว แต่ครั้งนี้มีปากเสียงถึงขั้นใช้มีดฟันกันเสียชีวิต
หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายสมเกียรติไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยได้แจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย”