ศูนย์ข่าวศรีราชา - เสียงครวญจากนายกสมาคมสปาฯ ภาคตะวันออก ชี้พิษโควิด-19 ทั้ง 3 ระลอกทำผู้ประกอบการปิดตัวเองแล้วกว่า 400 แห่ง หรือ 80% ของผู้ประกอบการทั้งหมด เหตุไม่เห็นภาพการฟื้นตัวทางการท่องเที่ยว วอนรัฐกำหนดมาตรการเยียวยาที่ชัดเจน
วันนี้ (2 มิ.ย.) นายชัยรัตน์ รัตนโนภาส นายกสมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออก ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ทำให้ผู้ประกอบการสปาและร้านนวดต่างๆ ในเมืองพัทยา ใกล้ถึงเวลาต้องต้องทยอยปิดตัวจากการไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ไหว
ทั้งนี้ นับตั้งแต่การแพร่ระบาดในระลอกแรกและระลอกที่ 2 ที่ทำให้ผู้ประกอบการสปาเมืองพัทยา ต้องปิดบริการชั่วคราวตามมาตรการของ สบค. ยังพอที่จะประคองสถานการณ์ได้ แต่สุดท้ายเมื่อเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้ผู้ประกอบการสปา และร้านนวดหลายแห่งต้องปิดบริการอย่างไม่มีกำหนด และบางรายถึงขั้นต้องประกาศปิดถาวร
เพราะไม่สามารถแบกรับค่าเช่าและค่าใช้จ่ายได้ ประกอบกับยังมองไม่เห็นหนทางของการกลับมาสร้างรายได้ในระยะเวลาอันใกล้ ทั้งนี้ แม้ที่ผ่านมาภาคธุรกิจในเมืองพัทยาจะพยายามหาหนทางขับเคลื่อนเพื่อความอยู่รอด
โดยเฉพาะโครงการ Pattaya Move On ที่มีแผนจะเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่ต้องกักตัว 14 วันในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี แต่ในวันนี้ยังไม่มีทีท่าว่าโครงการดังกล่าวจะถูกขับเคลื่อนไปในทิศทางใดเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
"แนวทางการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลก็ยังไม่ความชัดเจน จึงทำให้การประกอบธุรกิจหลายประเภทเลือกที่จะจบด้วยการปิดกิจการทั้งชั่วคราวและแบบถาวร เพื่อรอดูว่าหากในอนาคตสถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้นอาจได้กลับมาประกอบธุรกิจอีกครั้ง"
นายกสมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออก ยังบอกอีกว่า ปัจจุบัน เมืองพัทยามีสถานประกอบการสปาและร้านนวดที่ปิดตัวไปแล้วกว่า 400 แห่ง หรือประมาณ 80% ของผู้ประกอบการทั้งหมด และในขณะนี้ยังเหลือผู้ประกอบการอีกไม่ถึง 100 แห่งที่ยังคงประคองธุรกิจให้อยู่ได้
ในวันนี้จึงอยากให้ภาครัฐกำหนดมาตรการเยียวยาที่ชัดเจนพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนรับมือและบริหารธุรกิจได้ถูกต้อง
"หากรัฐมีความชัดเจนในมาตรการต่างๆ เช่น ระยะเวลาการประกาศปิดกิจการ หรือแนวทางช่วยเหลือต่างๆ จะทำให้ผู้ประกอบการคลายความกังวลได้ แต่ปัจจุบันกลับพบว่าการประกาศมาตรการใดๆ ไม่มีการกำหนดไทม์ไลน์ที่ชัดว่าจะให้ผู้ประกอบการปิดกี่วัน จะเยียวยาวอย่างไร สิ่งเหล่านี้ภาคเอกชนกลับกลายเป็นผู้ที่ต้องดิ้นรนเองไม่ว่าจะเกิดการแพร่ระบาดกี่รอบก็ตาม" นายกสมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออก กล่าว
