xs
xsm
sm
md
lg

ทิ้งทวนก่อนย้าย! ผู้ว่าฯ โคราชส่งหนังสือจองวัคซีนซิโนฟาร์ม 1 แสนโดส พร้อมหารือ มท.ชัดๆ ใช้งบท้องถิ่นซื้อได้หรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ทิ้งทวนก่อนไปชัยภูมิ ผู้ว่าฯ โคราชส่งหนังสือสั่งจองวีคซีนซิโนฟาร์มจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ 1 แสนโดสให้ชาวโคราช พร้อมหารือมหาดไทยชัดๆ ใช้งบฯ ท้องถิ่นซื้อได้หรือไม่ เผยลุยงานสุดท้ายรับมอบอุปกรณ์การแพทย์สู้โควิดท่ามกลางแพทย์พยาบาลแห่มอบดอกไม้ให้กำลังใจ เจ้าตัวถึงกับน้ำตาซึม ขอผู้ว่าฯ คนใหม่สานต่อโครงการพัฒนาเมืองย่าโม

วันนี้ (30 พ.ค.) ที่ห้องเอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ นางณัฎฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ ประธานแม่บ้านมหาดไทย สาขานครราชสีมา เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล พี่น้องประชาชนที่ทยอยเดินทางมาฉีดวัคซีนโควิด-149 จำนวนมากกว่า 1,000 คน โดยมี นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และ นพ.จิรศักดิ์ วิจักขณาลัญฉ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา คณะแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการบริการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนให้การต้อนรับ


พร้อมทั้งรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพ (B105 GE Healthcare) ให้ รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา 1 เครื่องมูลค่า 120,000 บาท โดยมี นางปทุม พรรณพิสุทธิ์ รองประธานสโมรสวอลเลย์บอลนครราชสีมา เดอะมอลล์ วีซี ร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมีภาคเอกชนร่วมบริจาคด้วย เช่น เครื่องวัดความดันชนิดสอดแขน จำนวน 10 เครื่อง มูลค่า 600,000 บาท ให้ รพ.เทพรัตน์ นครราชสีมา, เครื่องตรวจคลื่นหัวใจ KENZ CARDICO - 1215 มูลค่า 150,000 บาท, กลุ่มบริษัท เทพนคร บริจาคเงิน 100,000 บาท เพื่อจัดซื้อตู้เย็นเก็บวัคซีน ขนาด 51 คิว ให้ รพ.เทพรัตน์ฯ และ ดร.จุรีภรณ์ เมฆินไกรลาศ บริจาคเครื่อง Dafibrillator Nihon ให้ รพ.เทพรัตน์ฯ มูลค่า 400,000 บาท

ในโอกาสเดียวกันนี้ นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้นำบุคลากรทางการแพทย์ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่และเป็นตัวแทนกล่าวแสดงความรู้สึกก่อนมอบของที่ระลึกในโอกาสที่นายวิเชียรทำงานในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดฯ วันสุดท้ายก่อนเดินทางไปรับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมมอบดอกกุหลาบเพื่อแสดงความชื่นชมและให้กำลังใจในฐานะที่ได้ร่วมทำงานมาตลอด 5 ปี 8 เดือนที่เป็นผู้ว่าฯ นครราชสีมา โดยมีการบรรเลงเพลง “แทนคำขอบคุณ” โดยทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถึงตัวไปแต่ใจยังอยู่ที่โคราช รู้สึกเสียดาย และเป็นไปได้ก็อยากให้นายวิเชียรช่วงโยกย้ายเดือนตุลาคมนี้ได้กลับมาทำงานในตำแหน่งผู้ว่าฯ นครราชสีมาอีก 1 ปี ก่อนเกษียณอายุราชการที่ จ.นครราชสีมาในปี 2565 โดยนายวิเชียรถึงกับตาแดงน้ำตาซึม พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคนและทุกกำลังใจที่ร่วมทำงานฝ่าฟันอุปสรรคทำให้โคราชผ่านพ้นวิกฤตมาได้จนถึงวันนี้


นายวิเชียรกล่าวว่า ตนทำงานในตำแหน่งผู้ว่าฯ นครราชสีมา มา 5 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากข้าราชการด้วยดีมาตลอด การทำงานที่ผ่านมาหลายเรื่องอาจไม่สำเร็จ 100% และหลายเรื่องยังค้างคาอยู่ และตนอยากที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไปให้ลุล่วง เพราะเป็นความตั้งใจและทุ่มเทที่จะทำงานเพื่อ จ.นครราชสีมา และต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวโคราชที่ให้การสนับสนุนเสมอมาและให้กำลังใจอย่างดีเยี่ยมตลอด ทำให้เกิดเป็นความประทับใจสำหรับตนและครอบครัว มาวันนี้ตนย้ายไป จ.ชัยภูมิซึ่งเป็นจังหวัดที่เคยทำงานมาก่อนแล้ว อาจเป็นจังหวัดที่เล็กกว่า จ.นครราชสีมา ตนจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จาก จ.นครราชสีมาไปทำงานพัฒนาที่ จ.ชัยภูมิ เพื่อพี่น้องประชาชนชาว จ.ชัยภูมิ และตนจะเฝ้าดูการพัฒนาของ จ.นครราชสีมาด้วยความเอาใจช่วยและด้วยความตั้งใจที่อยากเห็นการพัฒนา จ.นครราชสีมาในทุกด้านในทุกโอกาสต่อๆ ไป

ส่วนโครงการต่างๆ ที่สำคัญตนอยากจะฝากผู้ว่าราชการจังหวัดฯ คนใหม่ได้สานต่อ งานที่ค้างอยู่ต่อไป ซึ่งยังเหลืออีกมากมายที่ค้างอยู่ เช่น โครงการเจ้าภาพพืชสวนโลก, โครงการสกายวอล์กที่เขายายเที่ยง ลำตะคอง อ.สีคิ้ว, โครงการสร้างพุทธมณฑลนครราชสีมา, โครงการสร้างอนุสรณ์สถานพระนารายณ์มหาราช วัดพระนารายณ์, โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต, โครงการแก้ปัญหาความยากจนที่จะลงไปสู่คนยากจนกว่า 3 หมื่น 4 พันครอบครัวใน จ.นครราชสีมา และท่าเรือบก เป็นต้น ก็ขอฝากไว้ตรงนี้ด้วย นายวิเชียรกล่าวในตอนท้าย


ทั้งนี้ ก่อนเดินทางไปรับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้ลงนามในหนังสือเกี่ยวกับการเร่งดำเนินการจัดหาวัคซีนโควิด-19 มาฉีดให้แก่ประชาชนชาว จ.นครราชสีมา เป็นการทิ้งทวน 2 ฉบับรวด คือ ฉบับแรกเป็นหนังสือด่วนที่สุด ที่ นม. 0017.2/11154 ลงวันที่ 25 พ.ค. 2564 เรื่อง การสั่งของวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เรียน เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

โดยมีเนื้อหาระบุว่า ด้วยทราบว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ผสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในการจัดหาวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับวัคซีนเพื่อสร้างภิคุ้มกันให้ได้เร็วที่สุด รวมทั้งเป็นการควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และกระจายวัคซีนในสถานการณ์ฉุกเฉินให้เป็นไปอย่างทั่วถึง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนที่มีความประสงค์ที่จะจัดซื้อวัคซีนเพื่อนำไปฉีดให้แก่ประชาชนหรือบุคลากรในหน่วยงาน


จ.นครราชสีมาได้หารือร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา มีความยินดีให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือจังหวัดนครราชสีมาในการจัดหาวัคซีนมาให้แก่ประชาชนชาว จ.นครราชสีมาให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น รวมทั้งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของจังหวัดฯ และของประเทศไทย ตลอดจนสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและเพิ่มขีดความสามารถที่จะช่วยเหลือให้ประชาชนทุกระดับได้กลับมาดำเนินชีวิตเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป

ดังนั้น จึงใคร่ขอจองวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 100,000 โดส และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทุกประการ ทั้งนี้ เพื่อความชัดเจนในกรณีอำนาจหน้าที่ในการจัดการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว จ.นครราชสีมาได้เร่งหารือเรื่องดังกล่าวไปยังกระทรวงมหาดไทยอีกทางหนึ่งด้วยแล้ว ผลการพิจารณาเป็นประการใด ขอความกรุณาแจ้งให้ จ.นครราชสีมา ทราบด้วย


ส่วนหนังสือฉบับที่ 2 เป็นหนังสือด่วนที่สุด ที่ นม.0023.3/11151 ลงวันที่ 25 พ.ค. 2564 เรื่อง “หารือกรณีการจัดหาวัคซีนเพื่อให้บริการประชาชน” เรียน “อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น”

โดยรายละเอียดเนื้อหาระบุว่า ตามที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการนำเข้าวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้พิจารณาอนุมัติการขอขึ้นทะเบียนวัคซีนดังกล่าว โดยเป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการจัดหาและนำเข้าวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุดนั้น เรื่องจากโรคโควิดได้มีการแพร่ระบาดในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่ง จ.นครราชสีมามีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 2,692,889 คน มีเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากรในพื้นที่ คิดเป็นจำนวนประชากร 1,885,023 คน แต่ปัจจุบันสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้เพียง 89,290 คน คิดเป็นร้อยละ 4.74 ของประชากรในพื้นที่ และยังไม่สามารถระบุได้ว่า จ.นครราชสีมาจะได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมอีกจำนวนเท่าใด


ในขณะที่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดฯ มีความต้องการในการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการกดดันต่อการทำงานของจังหวัดฯ ประกอบกับ จ.นครราชสีมามีเป้าหมายที่จะเปิดจังหวัดฯ ในห้วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 ซึ่งจังหวัดฯ จะมีการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลสโมสรชายและสโมสรหญิง ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2021 และในเดือนธันวาคม 2564 จ.นครราชสีมาเป็นเจ้าภาพในการจัดงานศิลปะนานาชาติระดับโลก ครั้งที่ 2 (Thailand Biennale, Korat 2021) ซึ่งจะมีนักกีฬา ศิลปิน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาในจังหวัดฯ เป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องจัดเตรียมความพร้อมเร่งฉีดวัคซีนเพื่อให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิดเป็นไปในทางที่ดีขึ้น

จ.นครราชสีมาจึงใคร่ขอหารือแนวทางปฏิบัติว่า ในกรณีที่หน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดหาวัคซีนยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าจะจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมให้แก่ จ.นครราชสีมาได้อีกเมื่อใดและจำนวนเท่าใด มีเพียงราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ดังกล่าวข้างต้นที่สามารถจัดหาและนำเข้าวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุด จ.นครราชสีมาจะสามารถมอบหมายให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.นครราชสีมาจัดหาวัคซีนเพื่อให้บริการประชาชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมาได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยจะดำเนินการจัดซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะสามารถดำเนินการจัดซื้อวัคซีนได้หรือไม่ หรือหากมีแนวทางปฏิบัติอย่างไรขอให้แจ้งให้ จ.นครราชสีมา เพื่อถือเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ นครราชสีมา ถึงกับน้ำตาซึม








กำลังโหลดความคิดเห็น