เชียงราย - จับอีก 7 ชาวจีน 1 ลาว..ลอบข้ามโขงขึ้นฝั่งไทย ขณะที่ นรข.จัดกำลังพลพร้อมเรือลาดตระเวนร่วมซีลพรมแดนตลอดแนวน้ำโขงตั้งแต่สามเหลี่ยมทองคำ-แก่งผาได
วันนี้ (27 พ.ค.) น.อ.จิรัฎฐ์ ผูกทอง ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย นำกำลังร่วมกับทหาร ฉก.ม.3 และ ฉก.ทพ.32 กองกำลังผาเมือง ฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน สภ.เชียงแสน ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน ทหารพราน ทพ.32 ตำรวจน้ำ ฯลฯ เปิดยุทธการการสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ลาดตระเวนทั้งทางบก-ทางเรือในน้ำโขง ตั้งแต่สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ไปจนถึงสุดชายแดนไทย-สปป.ลาว ตรงแก่งผาได อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจถึงบริเวณช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-เมียนมา-สปป.ลาว ด้านหมู่บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน พบกลุ่มคนต้องสงสัยเดินอยู่ริมฝั่งน้ำโขง 8 คน จึงเข้าไปตรวจสอบพบเป็นชายชาวจีน 7 คน และชาว สปป.ลาว 1 คน ทั้งหมดไม่มีเอกสารเข้าเมืองโดยถูกต้อง สอบถามทราบว่าเพิ่งลอบข้ามแม่น้ำโขงมา
เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อกล่าวหา 1. เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ตามมาตรา 35 (1) พ.ร.บ.ควบคุมโรค 2558 3. ฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตาม ม.9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
น.อ.จิรัฎฐ์กล่าวว่า กองกำลังต่างๆ ที่ร่วมกับ นรข.เขตเชียงรายจะแบ่งหน้าที่กันออกปฏิบัติการตลอดแนวชายแดน รวมทั้งสกัดกั้นพื้นที่ชั้นในเข้ามาอีกตลอด 24 ชั่วโมง ออกประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือผู้ประกอบการต่างๆ เพื่อป้องกันการซ่อนตัวหรือการเข้าพักของคนต่างด้าวด้วย
สำหรับพื้นที่ฝั่งตรงข้ามบ้านสบรวกดังกล่าวเป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่ง สปป.ลาวให้สัมปทานกลุ่มทุนจีนในนาม “กลุ่มดอกงิ้วคำ” เข้าไปพัฒนาพื้นที่-ลงทุนสร้างโครงการคิงส์โรมัน ซึ่งมีทั้งโรงแรม กาสิโน สถานบันเทิง ร้านค้า แหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ และพบการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกล่าสุดตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.เป็นต้นมา กระทั่งมีการล็อกดาวน์พื้นที่ และทางสาธารณสุขจีนได้นำคณะพร้อมอุปกรณ์เดินทางไปแก้ไขการระบาด รวมทั้งทำการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ที่อยู่ภายในโครงการอย่างต่อเนื่อง
