กาญจนบุรี - ปธ.หอการค้า จ.กาญจน์ จี้รัฐทบทวนจัดลำดับพื้นที่ฉีดวัคซีน ‘กาญจนบุรี’ ควรอยู่ในกลุ่ม 2 พร้อมเปิดเสรีวัคซีนให้เอกชนนำเข้าเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ ก่อนจะสายเกินไป
วันนี้ (26 พ.ค.) นายวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ภาคเอกชนจังหวัดกาญจนบุรี ประกอบด้วย สภาหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และองค์กรเอกชนอื่นๆ ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอวัคซีนให้มากเพียงพอต่อ 70% ของประชากรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ จ.กาญจนบุรี มีความพร้อมต่อการส่งเสริมเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางที่สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด
จนกระทั่งวันนี้ โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ได้มีการจัดลำดับความเร่งด่วนของพื้นที่ในการฉีดวัคซีนโควิด-19 เดือนมิถุนายน-กันยายน 2564 โดย ศบค.มท. ได้กำหนดจังหวัดที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เร่งด่วนจำนวน 17 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย สงขลา สระแก้ว ตาก มุกดาหาร นราธิวาส ระนอง หนองคาย เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ จันทบุรี ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สมุทรสาคร
จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีประชากรกลุ่มเสี่ยงเป็นจำนวนมาก เป็นจังหวัดที่มีเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยเฉพาะการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ดังนั้น จ.กาญจนบุรี จึงเป็นจังหวัดที่ควรจะอยู่ในกลุ่ม 2 ที่ต้องฉีดวัคซีนเร่งด่วนเหมือนกับ 17 จังหวัดข้างต้น ในนามภาคเอกชน นำโดยหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี สภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี และชมรมธนาคารกาญจนบุรี ขอเรียกร้องให้บรรจุ จ.กาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่ 18 ในกลุ่ม 2 ว่าด้วยความเร่งด่วนของพื้นที่ในการฉีดวัคซีนโควิดเดือนมิถุนายน-กันยายน 2564
การที่รัฐบาลไม่สามารถจัดสรรหรือสรรหาวัคซีนนำเข้ามาเพื่อฉีดให้ประชาชนได้ตามกำหนดที่รัฐบาลประกาศไว้ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลโดยตรง รัฐจะต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งหากเลื่อนนัดการเข้ารับการฉีดวัคซีนใหม่จะมีประเด็นตามมาอีก หากต้องเลื่อนออกไปเป็นเดือนๆ ในขณะที่การระบาดของโรคทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน รัฐบาลจะรับมือไหวหรือไม่ หากรัฐบาลรับมือไม่ไหว ไม่สามารถจัดหาวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนได้ ทำไมไม่เปิดเสรีวัคซีนให้เอกชนสามารถนำเข้ามาได้ ตนเชื่อว่าประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจะไม่มาฉีดซ้ำอย่างแน่นอน
ขณะที่มีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ยินดีจะจ่ายเงินเพื่อฉีดวัคซีนที่พวกเขาพึงพอใจ ซึ่งยังมีวัคซีนที่มีคุณภาพอีกหลายยี่ห้อที่ประชาชนชาวโลกและประเทศชั้นนำใช้ ไม่ใช่ถูกบังคับเพียงแค่ 2 ยี่ห้อ ที่ประเทศไทยนำมาฉีดให้ประชาชนเท่านั้น อีกทั้งยังจัดหามาไม่ทันอีก ขณะที่เรากำลังเจอกับโรคที่กำลังคุกคามเข้ามา ซึ่งไม่ทันต่อสถานการณ์ ส่งผลให้ชีวิตของประชาชนคนไทยต้องมาแบกรับความเสี่ยงด้านสุขภาพเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่รัฐควรจัดหาและจัดสรรวัคซีนให้มีการนำเข้าอย่างต่อเนื่องและมีจำนวนเพียงพอ
จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาเปิดเสรีวัคซีนให้เอกชนสามารถนำเข้ามาได้ ซึ่งในส่วนของการอนุมัติ ตนคิดว่าไม่ได้มีความยุ่งยากที่องค์กรอาหารและยา (อย.) จะพิจารณา ในเมื่อองค์การอนามัยโลก และองค์กรที่ดูแลในเรื่องของคุณภาพวัคซีน อนุมัติวัคซีนเหล่านั้นใช้ในระดับสากลแล้ว เราคนไทยก็ย่อมมีสิทธิได้ใช้ดังนั้นผมขอเรียกร้อง คือ จ.กาญจนบุรี ควรได้รับการดูแลเป็นจังหวัดที่ 18 ในกลุ่มที่ 2