นครสวรรค์ - ตำรวจใช้ทั้งญาติกล่อม-ผสมยานอนหลับในน้ำดื่ม ล้อมจับช่างไฟหนุ่มนครสวรรค์..มือฆ่ากิ๊กสาวลูกสองวัย 27 หมกศพในป่ากกริมคลองชลประทานตาคลี พบปมแค้นรักสี่เส้า หลังแอบคบหา 1 หญิง 2 ชาย-ส่งเสียมานาน ยังปันใจให้ชายคนใหม่อีก
ความคืบหน้ากรณีพบ น.ส.มนชญา หรือ ฝ้าย เศษวารี อายุ 27 ปี ถูกฆ่าหมกศพทิ้งไว้ในป่ากก ริมคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก บ้านหนองจิกรี หมู่ 8 ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งปมสังหารในประเด็นเรื่องชู้สาว และถูกลวงมาฆ่า
โดยมีการนำตัว นายศุภชัย อายุ 35 ปี สามีของผู้ตายไปตรวจร่างกาย พร้อมกับมีการสอบปากคำตลอดทั้งคืน จนในที่สุด นายศุภชัย เปิดเผยข้อมูลถึงบุคคลต้องสงสัยที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.สุทธินันธ์ คงแช่มดี ผกก.ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.นครสวรรค์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนในสังกัด ได้เข้าปิดล้อมบ้านของ นายสมภพ หรือ กั้ง รักษาเลิศ อายุ 30 ปี ช่างไฟในพื้นที่หมู่ 8 ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เมื่อเย็นที่ผ่านมา (21 พ.ค. 64)
หลังแนวทางการสอบสวนมีการสาวตัวไปถึงนายสมภพ เป็นผู้ลงมือฆ่า น.ส.มนชญา เพราะความหึงหวง โดยนายสมภพกับ น.ส.มนชญา ผู้ตาย ได้แอบคบหาเชิงชู้สาวกับแบบลับๆ มานาน ซึ่งสามีของผู้ตายก็ทราบเรื่องนี้ด้วย แต่ก็ปล่อยให้นายสมภพแอบคบหากัน ขณะที่นายสมภพได้ส่งเสียเลี้ยงดู น.ส.มนชญา มาโดยตลอด กระทั่งมารู้ว่าผู้ตายเริ่มปันใจคบหากับผู้ชายใหม่อีกคน จึงเกิดความหึงหวงถึงขั้นเคยบุกไปทำร้ายร่างกายผู้ตายมาได้รับบาดเจ็บแล้วครั้งหนึ่ง ผ่านมาเพียงไม่กี่วันนายสมภพจึงตัดสินใจลวง น.ส.มนชญา ออกมาลวงฆ่าทิ้งที่ป่ากก
พยานปากเอก คือ นายอึ่ง (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของนายสมภพ ซึ่งเป็นผู้ให้ปากคำ ระบุว่า ในวันเกิดเหตุ ไม่ได้รู้เห็นเหตุการณ์ แต่นายสมภพได้โทรศัพท์มาขอให้ขับรถยนต์มารับในจุดที่พบศพ น.ส.มนชญา โดยกำชับว่า ให้ขับรถมองหน้ามองหลังระวังอย่าให้ใครตาม ซึ่งก็สงสัยว่าทำไมต้องให้ระวัง แต่ก็ไม่ได้ถาม จึงได้ขับรถไปรับเพื่อนรักตามที่ร้องขอ และเมื่อขับออกจากจุดเกิดเหตุมาจนถึงทางแยก จู่ๆ นายสมภพก็เปิดประตูรถวิ่งหายไปหน้าตาเฉย จนกระทั่งมาทราบอีกทีว่า มีการพบศพ น.ส.มนชญา ถูกฆ่าตายใกล้กับจุดที่ขับรถไปรับนายสมภพ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบภาพของนายอึ่งได้ขับออกมาจากจุดที่พบศพด้วย จึงมีการเชิญตัวนายอึ่งมาสอบปากคำจนนำไปสู่การปิดล้อมจับกุมนายสมภพคลี่คลายคดี
อย่างไรก็ตาม ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปิดล้อมบ้าน พบว่า นายสมภพ ได้เข้าไปหลบซ่อนอยู่ในห้องนอน และปิดประตูล็อกเอาไว้ โดยมีอาวุธปืนลูกซองพกติดตัวเอาไว้อยู่ตลอดเวลา จนเกรงว่าจะเกิดความเครียดจนก่อเหตุมิดีมิร้ายกับตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงขอให้ญาติและคนในบ้านสลับกันเข้าเจรจาเกลี้ยกล่อม รวมทั้งใช้ยานอนหลับมาผสมกับน้ำดื่มให้กับนายสมภพ แต่ก็ยังไม่เป็นผล
กระทั่งเวลาผ่านไปร่วม 2 ชั่วโมง จึงมีการเตรียมใช้วิธีโยนแก๊สน้ำตาเข้าไปในห้อง เพื่อบีบให้นายสมภพออกมา แต่ต่อมาก็มีนายธันวา รักษาเลิศ ซึ่งขับรถยนต์เดินทางจากกรุงเทพฯมาที่บ้านของนายสมภพ เพื่อมาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมให้หลานยอมมอบตัว ปรากฏว่า นายสมภพได้บอกขอเวลาอาบน้ำเพียงชั่วครู่ แล้วจึงยอมออกมามอบตัวแต่โดยดี
เบื้องต้น นายสมภพ ได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลวงกิ๊กสาวออกมาฆ่าทิ้ง แล้วนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายขี่เอาไปทิ้งลงคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก ห่างจากจุดทิ้งศพไปประมาณ 500 เมตร จึงได้ประสานให้ทีมหน่วยบรรเทาสาธารณภัยมูลนิธิการกุศลตาคลี มาช่วยงมหารถจนพบรถถูกทิ้งคลองในสภาพที่มีกุญแจคาอยู่ จึงมีการนำของกลางที่ได้ไปไว้โรงพักก่อนจะมีการควบคุมตัวนายสมภพไปสอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อมาสรุปสำนวนคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังการจับกุม นายศุภชัย สามีของ น.ส.มนชญา ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า รู้ตั้งแต่แรกน่าจะเป็นฝีมือของนายสมภพ จึงมีการให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ภรรยาถูกนายสมภพทำร้ายร่างกายจนหน้าบวมปูด หนำซ้ำ นายสมภพ ยังมาพูดจาหยาม บอกว่าส่งเมียคืนให้แล้ว และอย่าให้ผู้ตายมายุ่งกับเขาอีก ไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย จนกระทั่ง มาพบว่าภรรยาถูกฆ่าตายจริง
“ผมเจ็บปวดกับเรื่องนี้อย่างมาก เพราะนอกจากจะรู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมานาน ภรรยายังมาถูกชายชู้ฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมอีก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็แค้นมาก เพราะนายสมภพลงมือทำร้ายภรรยาจนเจ็บหนัก แต่กลายเป็นว่า ภรรยาไม่เอาเรื่อง จึงทำอะไรไม่ได้ เพราะตนรักภรรยา ถึงแม้เขาจะมีใคร แต่ถ้าเขาสั่งว่าไม่ ตนก็ไม่กล้าทำ เพราะตนรักและยอมเขาทุกอย่าง”
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า อยู่กินกับ น.ส.มนชญา มานานจนมีลูกด้วยกัน 2 คน ซึ่งก่อนที่ น.ส.มนชญา จะเสียชีวิตเพียงไม่กี่วัน ก็เพิ่งจะมีการจัดงานเผาศพลูกสาวคนเล็กวัยสองขวบ ที่ประสบอุบัติเหตุเดินตกร้องท่อระบายน้ำทิ้งบริเวณหน้าบ้าน จนทำให้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรามานานนับปี กระทั่งมาเสียชีวิต ก่อนหน้าแม่ได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น