บุรีรัมย์ - ญาติหนุ่มแรงงานชาวบุรีรัมย์เหยื่อระเบิดที่อิสราเอลภาวนาขอให้สงครามยุติ ไม่อยากให้แรงงานไทยที่ดิ้นรนไปทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวต้องจบชีวิตอีก พร้อมเรียกร้องรัฐช่วยครอบครัวที่ต้องขาดเสาหลักได้ส่งเสียหลาน 2 ขวบ และ 4 ขวบเรียนจบมีงานทำ
วันนี้ (20 พ.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่ นายสิขรินทร์ สงำรัมย์ หรือลิป อายุ 23 ปี หนึ่งในแรงงานไทยชาว ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบกันที่ประเทศอิสราเอล ซึ่งครอบครัวและญาติพี่น้องยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพื่อนบ้านมาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางครอบครับก็เฝ้ารออยากให้หน่วยงานรัฐช่วยเหลือนำศพกลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด เพราะอย่างน้อยจะได้เห็นหน้าเป็นครั้งสุดท้ายดีกว่าการนำเถ้ากระดูกกลับมาทำบุญเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมชี้แจงเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ครอบครัวของนายสิขรินทร์จะได้รับการเยียวยาช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น เงินช่วยเหลือจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศจำนวน 40,000 บาท และค่าทำศพจากประกันสังคมอีก 50,000 บาท บวกกันเงินสะสมอีกจำนวนหนึ่ง
นอกจากนั้นยังจะได้รับสิทธิประโยชน์ และเงินจากกองทุนผู้ประสบภัยสงคราม ของทางฝั่งประเทศอิสรเอลเป็นรายเดือนอีกด้วย โดยรับปากจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสีย
ขณะที่ นางลำพัน อุปคุณ ป้าของนายสิขรินทร์ บอกว่า เสียใจที่ต้องสูญเสียหลานชายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่หลานตั้งใจจะไปทำงานหาเงินเพื่อมาชำระหนี้สินและจุนเจือครอบครัว แต่ต้องจบชีวิตลงแบบนี้ทำให้ลูกชายของหลานวัยเพียง 2 ขวบ และ 4 ขวบต้องกำพร้าพ่อและขาดเสาหลัก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากจะภาวนาขอให้สงครามยุติลงจะได้ไม่ต้องมีแรงงานที่ดิ้นรนไปทำงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรต้องตกเป็นเหยื่อสูญเสียชีวิตเหมือนหลานชายของตนเองอีก
พร้อมกันนี้ยังอยากเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐได้เข้ามาเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวของหลานด้วย ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายกินอยู่ ภาระหนี้สิน และอยากให้ส่งเสียลูกทั้ง 2 คนของหลานได้เรียนสูงๆและมีงานทำสามารถเลี้ยงตัวเองได้ เพราะพ่อของหลานก็เสียชีวิตไปหลายปีแล้วเหลือเพียงแม่ที่เลี้ยงลูก ทุกวันนี้นายสิขรินทร์ หลานชายต้องทำหน้าที่เป็นเสาหลักแทนพ่อแต่ก็ต้องจบชีวิตจากเหตุภัยสงครามที่เกิดขึ้น ความหวังของครอบครัวที่จะมีเงินใช้หนี้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก็หมดลง เพราะลำพังรายได้จากการขายของของผู้เป็นแม่และภรรยาในภาวะวิกฤตโควิดก็แทบไม่พอกินอยู่แล้ว