พระนครศรีอยุธยา - ชาวบ้านริมคลองบางหลวง อำเภอบางบาล ผวากลางดึก นอนหลับไม่ลงหลังเขื่อนทรุดตัว หวั่นบ้านพังทั้งหลัง ต้องเฝ้าดูอย่างหวาดระแวงตลอดเวลา
เวลา 00.30 น.วันนี้ (14 พ.ค.) ผู้สื่อได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า หมู่ที่ 4 ตำบลบางหลวง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดือดร้อนหนักหลังจากได้รับผลกระทบจากแนวเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองบางหลวง ที่อยู่ หน้าบ้านทรุดตัวลง ทำให้บ้านเรือนประชาชน ที่ติดอยู่ริมเขื่อนได้รับผลกระทบ จำนวน 6 หลังคาเรือน บางหลังต้องเร่งรื้อบ้านหนี หวั่นว่าจะพังเสียหายทั้งหลัง
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ยังจุดเกิดเหตุ หมู่ 4 ตำบลบางหลวง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบชาวบ้านหลายคนจับกลุ่มยืนอยู่บนเขื่อนริมคลองบางหลวง ดูสภาพบ้าน สภาพพื้นที่ดินค่อยๆทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง พบว่า ที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 4 ตำบลบางหลวง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของนางรัตนา ศรีสุข อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแนวเขื่อนทรุดตัวลงทำให้ตัวบ้านเริ่มแตกร้าว พื้นบ้านทรุด
นางรัตนา เจ้าของบ้านกล่าวว่า เมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ มี 2 วันที่ฝนตกหนัก เริ่มมีสัญญาณเตือนของการแตกร้าวเป็นรอยของดินแนวเขื่อนที่สร้างใหม่ แต่ตนเองไม่ได้คิดอะไรมากกระทั่งเมื่อวาน ได้ยินเสียงลั่นดังเป๊ะของเขื่อน ดินเริ่มทรุดตัว ทำให้ช่วงบันไดหน้าบ้านหลุดออกจากแท่นปูน ตนเองเห็นท่าไม่ดีเริ่มเก็บข้าวของ จนกระทั่งมาช่วงเย็นวานนี้ มีเสียงลั่นดังดังถี่ขึ้น ดินเริ่มยุบตัวเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บริเวณห้องครัวเริ่มแตกร้าว
จึงช่วยกันขนย้ายข้าวบริเวณห้องครัวไปไว้ในตัวบ้าน เร่งรื้อบริเวณบันไดออก ตัดขื่อบ้านบริเวณห้องครัวที่เชื่อมกับตัวบ้านออก เพื่อแยกในส่วนที่ทรุด หวั่นหากดินทรุตัวมากไปกว่านี้จะทำให้ตัวบ้านถล่มลงมาทั้งหลัง ขณะนี้ตนเองและครอบครัวนอนไม่หลับต้องผวานอนฟังเสียงลั่นของเขื่อน และดินทรุด อยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาตรวจสอบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และหาแนวทางการช่วยเหลือ
ขณะเดียวกัน ยังพบกับนางสวรรค์ หร่ำจรูญ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 6 หมู่ 4 ตำบลบางหลวง อำเภอบางบาล กล่าวว่า ตนเองมีที่ดินติดกับบ้านหลังที่ทรุดตัวเสียหาย พื้นที่ของตนเองได้ทรุดลงไปหลายเมตร ตั้งแต่ 2-4 เมตร ทำให้หวั่นจะทรุดหนักลงไปกว่าเก่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาตรวจสอบช่วยเหลือ
ทั้งนี้ สำหรับเขื่อนดังกล่าวเพิ่งสร้างเสร็จได้ยังไม่ถึง 1 ปี เป็นระยะทางประมาณ 150 เมตร มีบ้านเรือนประชาชนปลูกติดกันหลายหลัง โดยพบว่ามีบ้าน และที่ดินทรุดเป็นแนวยาวกว่า 100 เมตร พบว่าน้ำในคลองลด ตัวเขื่อนแตกเสียหาย