ประจวบคีรีขันธ์ - ชื่นชม! กู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน ช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงไปยืนยันตัวตนที่ธนาคารเพื่อรับเงินเยียวยาในโครงการของรัฐบาล หลังจากช่วงโควิด-19 ระบาด เจ้าหน้าที่ธนาคารต้องงดลงพื้นที่
วันนี้ (11 พ.ค.) เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน เดินทางไปรับตัว นางหล่วนเกียว ฉิมพาลี อายุ 70 ปี ผู้ป่วยติดเตียงจากโรคเส้นเลือดดำอุดตัน อาศัยอยู่ในชุมชนพร้อมมิตรพัฒนา เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากได้รับการประสานจากนางสุปราณี ภูทอง อายุ 36 ปี ลูกสาวของผู้ป่วยรายนี้ว่า มารดาเป็นผู้ป่วยติดเตียง มีฐานะยากจน ไม่มีรถยนต์ที่จะพามารดามาดำเนินการยืนยันตัวตนที่ธนาคารกรุงไทย
หลังจากมารดาได้ลงทะเบียนตามสิทธิคนพิการ เพื่อรับเงินเยียวยาในโครงการเราชนะของรัฐบาล ซึ่งรับบาลอนุมัติให้รับสิทธิรับเงินเยียวยา 7,000 บาท แต่ยังไม่สามารถกดเงินออกมาใช้ได้ เพราะติดขั้นตอนการยืนยันตัวบุคคลในแอปเป๋าตัง ซึ่งในตอนแรกได้สอบถามไปยังธนาคารเนื่องจากเป็นผู้ป่วยติดเตียง ทีแรกทางธนาคารจะออกมาดำเนินการให้ แต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ทางธนาคารงดลงพื้นที่ไปก่อน
นางสุปราณี กล่าวว่า ภายหลังรับทราบว่าธนาคารไม่สามารถออกมาดำเนินการให้ได้ จึงได้ประสานไปยังมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยขอความช่วยเหลือให้มูลนิธิช่วยนำมารดาไปหาหมอโรงพยาบาลหัวหิน เมื่อทางมูลนิธิทราบเรื่องก็ยินดีช่วยเหลือ ตนเองจึงได้ประสานไปยังธนาคารอีกทางหนึ่งเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ธนาคารลงมาดำเนินการด้านหน้าธนาคาร วันนี้ทางงธนาคารอำนวยความสะดวกด้วยความรวดเร็ว พร้อมทั้งอธิบายขั้นตอนการเปลี่ยนรหัส การรับเงินทั้งโครงการเราชนะรอบแรก 7,000 บาท และรอบใหม่ที่เงินจะเข้าในวันที่ 20 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งต้องขอบคุณทั้งสองฝ่ายที่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ด้านนายอภิรักษ์ เมืองเทศ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน กล่าวว่า นอกเหนือจากการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินอุบัติเหตุทั่วไปแล้ว ยังช่วยบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้พิการไปรับบริการที่โรงพยาบาล ช่วงนี้รัฐบาลมีโครงการช่วยเหลือผู้พิการซึ่งมีทั้งรอบเดิม 7,000 บาท และรอบใหม่ที่เงินจะเข้าอีก 3,000 บาท จะมีชาวบ้านมาขอความช่วยเหลือให้ช่วยนำผู้ป่วยติดเตียงมาธนาคารกรุงไทย ซึ่งทางมูลนิธิถือว่าเป็นภารกิจช่วยเหลือชาวบ้านและงานบริการ เต็มใจช่วยเหลือทั้งรับส่งจนดำเนินการสำเร็จ รวมทั้งเตรียมพร้อมอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่เอง และผู้ป่วย