xs
xsm
sm
md
lg

ทหารแจงชัดจัดกำลังพลนับพันซีลชายแดนสกัดคนลอบเข้าเมือง ชี้แหล่งบันเทิงท่าขี้เหล็กเปิดมาตั้งแต่เมษาฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงราย - ผู้การฯ ทหารชายแดนแจงยิบ จัดกำลังพลนับพันเฝ้าระวังเข้มคนข้ามแดนกันโควิด แถมส่งโดรนบินส่อง-ติดกล้อง-ขึงลวดหนามตลอดแนว เผยแหล่งบันเทิงท่าขี้เหล็กเปิดมาตั้งแต่เดือนเมษาฯ แต่ยังมีเคอร์ฟิว ยันไม่พบคนไทยข้ามฝั่งเที่ยว


วันนี้ (11 พ.ค. 64) พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ได้นัดสื่อมวลชนในเชียงรายแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา และไทย-สปป.ลาว ด้าน จ.เชียงราย ในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า เป็นการแจ้งข้อเท็จจริงของสถานการณ์และการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง หลังสื่อมวลชนบางสำนักนำเสนอข่าวการเปิดสถานบันเทิงในเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมืองกล่าวว่า สถานบริการในเมืองท่าขี้เหล็กนั้นได้เปิดมาตั้งแต่เดือนเมษายน 64 ที่ผ่านมาแล้ว แต่พอมีการนำเสนอข่าวทำนองว่าเพิ่งเปิดในช่วงนี้ท่ามกลางสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดในประเทศ รวมทั้งทราบว่าสถานบันเทิงเหล่านี้ก็ไม่ได้รับพนักงานใหม่เข้าไปทำงานเพราะปัญหาเรื่องโควิด-19 ในไทย การประกาศห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวในท่าขี้เหล็กเอง และนักท่องเที่ยวก็ไม่สามารถเที่ยวกันได้ตามปกติด้วย ดังนั้น การนำเสนอข่าวว่าคนไทยข้ามไปทำงานในท่าขี้เหล็ก โดยเฉพาะเคยมีกลุ่มหรือคลัสเตอร์ผู้ป่วยจำนวนมากช่วงปลายปี 2563 จึงไม่เป็นผลดีเลย

พ.อ.สัมฤทธิ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกำลังพลที่ประจำอยู่ที่แนวชายแดนเฉพาะด้าน อ.แม่สาย คาบเกี่ยวไปทางสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน มีมากถึง 86 ชุด กำลังพลเกือบพันนายต้องไปทำหน้าที่ดูแลไม่ให้มีการลักลอบข้ามเข้าออกชายแดนและกระทำผิดกฎหมายอื่น


“ยืนยันว่าทุกนายไม่มีออกนอกลู่นอกทางและทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด ในส่วนของคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมาระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี ฝ่ายเมียนมา เขาก็ยินดีช่วยสกัดกั้นทั้งการลักลอบข้ามฝั่งมาไทยและจากไทยไปเมียนมา ทำให้การปฏิบัติงานง่ายขึ้นอีก จึงยืนยันว่าตลอดเวลา 4 เดือนมานี้มีคนลักลอบข้ามไปฝั่งเมียนมาไม่เกิน 5 คนเท่านั้น”

ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมืองกล่าวด้วยว่า ตนเคารพในการทำงานของทุกฝ่าย สื่อมวลชนก็มีเสรีภาพในการนำเสนอข่าวไม่มีใครไปบังคับได้ แต่ก็มีหน้าที่ในการนำเสนอข้อเท็จจริงโดยไม่บิดเบือน ตนจึงจัดแถลงข่าวด้วยเรื่องนี้เรื่องเดียวโดยไม่มีการแถลงผลงาน 6 เดือน เพื่อจะได้สร้างความเข้าใจไปยังฝ่ายต่างๆ

“ต้องขอบอกด้วยว่าตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมาทหารที่ปฏิบัติงานอยู่ยังไม่ได้กลับบ้านเลยจนถึงกลางเดือนนี้ แต่ก็ยินดีปฏิบัติงาน แต่ข่าวที่ออกมาเหมือนกับว่าไม่มีทหารอยู่ที่ชายแดนและผู้คนเข้าออกได้เหมือนเข้าร้านสะดวกซื้อ จึงขอให้แก้ข่าวใหม่ตามที่แถลงแล้วนำเสนอเป็นข้อเท็จจริงออกไป”


นอกจากนี้ ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมืองได้มอบหมายให้ พ.อ.ปรีชา วงศ์สาขา เสธ.ฉก.ม.3 แถลงสถานการณ์และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่านับตั้งแต่กองทัพเมียนมาเข้าบริหารประเทศ ก็มีการประกาศภาวะฉุกเฉินในเดือน ก.พ. 2564 เป็นต้นมา เพราะมีการประท้วงตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ กรณีเมืองท่าขี้เหล็กนั้น สถานการณ์ไม่รุนแรง กระทั่งตอนนี้สถานการณ์เกือบเป็นปกติ และมีการค้าชายแดนกับประเทศไทยผ่านสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่อนุญาตให้ผู้คนผ่านเข้าออกพรมแดนระหว่างกัน

กรณีสถานบันเทิงถือเป็นจุดเปราะบางและอ่อนไหว ซึ่งได้ปิดมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 64 เพราะการประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าว แต่ในเดือนเมษายนได้กลับมาเปิด แต่อยู่ภายใต้เคอร์ฟิว 22.00-04.00 น. จากเดิมที่เคยมีนักท่องเที่ยวที่เป็นนักธุรกิจจากเมืองย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และในท่าขี้เหล็ก ไปเที่ยว คนกลุ่มนี้ได้เดินทางกลับแล้วจึงเหลือกลุ่มนักท่องเที่ยวในพื้นที่เป็นชาวไต ว้า จีน ฯลฯ และไม่พบคนฝั่งไทยข้ามไปท่องเที่ยว ทั้งนี้ ปัจจุบันเมืองท่าขี้เหล็กมีการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับจากประเทศอินเดียอย่างต่อเนื่องทั้งเจ้าหน้าที่ และประชาชน

ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมืองยังแถลงอีกว่า สำหรับการปฏิบัติงานที่ชายแดนทางเจ้าหน้าที่บูรณาการกับทั้งตำรวจและฝ่ายปกครองในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจตลอดแนวและเพิ่มความถี่ในการปฏิบัติงานทั้งกลางวันและกลางคืน มีการติดตั้งไฟส่องสว่าง รั้วลวดหนาม กล้องวงจรปิด อากาศยานไร้คนขับหรือโดรน


กองทัพบกยังอนุมัติเพิ่มเติมกำลังพล 28 ชุดปฏิบัติการ และกองกำลังผาเมืองสั่งการให้เพิ่มอีก 8 ชุดปฏิบัติการ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้น ทำให้ห้วงที่ผ่านมาสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวได้จำนวน 151 ราย ผู้นำพา 16 คน และส่งกลับบุคคลต่างด้าวแล้ว 51 คน

ส่วนสถานกาณ์ฝั่ง สปป.ลาว ล่าสุดเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน ที่ตั้งของโครงการคิงส์โรมัน มีการปิดการเข้าออกหรือล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 6-20 พ.ค.นี้ และมีการระดมฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มให้พนักงานและชาวลาวทุกคนที่อยู่ภายในโครงการแล้ว 223 คน นอกจากนี้ทราบว่ามีคนไทยทำงานในโครงการไม่ขอเดินทางกลับประเทศไทยแม้แต่รายเดียว


กำลังโหลดความคิดเห็น