ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษเพิ่มยาแรงหลังยอดผู้ป่วยโควิด-19 สะสมพุ่ง 220 ราย ประกาศห้ามออกจากเคหสถานหลัง 5 ทุ่ม ถึงตี 4 สั่งปิดสถานที่เสี่ยง ยกระดับคุมเข้มผู้เดินทางมาจังหวัดฯ แดงต้องกักตัว 14 วันทุกคน พร้อมสั่งปิด 2 หมู่บ้าน อ.กันทรารมย์ ติดเชื้อคลัสเตอร์เดียวอื้อ 20 ราย
วันนี้ (8 พ.ค.) ที่อาคารพลศึกษาวีสมหมาย อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสำรวย เกษกุล นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายนพ พงศ์ผลาดิสัย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาตรวจความพร้อมของโรงพยาบาลสนามที่ได้รับบริจาคจากมูลนิธิเอสซีจี จำนวน 50 ชุด เพื่อเตรียมไว้สำหรับรองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้มีการจัดเตรียมเตียงพร้อมเครื่องนอนและพัดลมไว้ครบ และมีความพร้อมที่จะใช้งานได้ทันทีหากมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงมากขึ้น
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่เมษายนของ จ.ศรีสะเกษ ล่าสุดวันนี้พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มอีกจำนวน 11 ราย รวมผู้ป่วยสะสมจำนวน 220 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้วจำนวน 98 ราย คงเหลือยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจำนวน 122 ราย จำแนกพื้นที่อำเภอที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ อ.กันทรารมย์, อ.เมืองศรีสะเกษ และ อ.กันทรลักษ์ ตามลำดับ
ขณะนี้ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษได้เกิดกลุ่มคลัสเตอร์ระบาดขึ้นหลายกลุ่มกระจายไปในหลายพื้นที่อย่างรวดเร็ว มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งการติดเชื้อได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อยกระดับการป้องกันและระงับยับยั้งการระบาดของโรคมิให้แพร่ระบาดออกไปในวงกว้าง และควบคุมสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ออกประกาศคำสั่งจังหวัดศรีสะเกษ ฉบับที่ 17
เนื้อหาสาระสำคัญระบุว่า ขอความร่วมมือประชาชนใน จ.ศรีสะเกษทุกคนงดเดินทางออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 23.00 น. ถึงเวลา 04.00 น. ของวันถัดไป เว้นแต่มีเหตุจำเป็นที่ต้องประกอบอาชีพหรือมีเหตุจำเป็นอย่างยิ่งอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ พร้อมสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 9-22 พ.ค. 2564 นี้ ได้แก่ โต๊ะสนุกเกอร์ และสวนน้ำ สระว่ายน้ำที่เปิดให้บริการทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสระว่ายน้ำกลางในหมู่บ้านจัดสรร
นายวัฒนากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้แจ้งให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาใน จ.ศรีสะเกษ ต้องปฏิบัติตามมาตรการดังนี้ 1. ผู้ที่เดินทางเข้าพื้นที่ จ.ศรีสะเกษทุกราย ต้องไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข/ อสม./ผู้นำในชุมชนพื้นที่ทันทีที่เดินทางถึง เพื่อลงทะเบียนและคัดกรองประวัติการเดินทางจากพื้นที่เสี่ยง
2. ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด ขอให้กักตัวที่บ้าน/ที่พักอาศัยเป็นเวลา 14 วัน หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย
3. ผู้ที่เดินทางมาจาก 26 จังหวัดพื้นที่ควบคุม หากมีประวัติเสี่ยงต้องกักตัวที่บ้าน/ที่พักอาศัย เป็นเวลา 14 วัน
4. ผู้ที่กักตัวที่บ้าน/ที่พักอาศัยทุกราย ต้องได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และฝ้าระวังสังเกตอาการ โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข/อสม.ทุกวัน จนครบ 14 วัน ขอให้งดเดินทางไปในสถานที่ชุมชน งานบุญ งานประเพณี งานแต่งงาน ฯลฯ ตลอดระยะเวลาที่กักตัว
5. ขอให้สังเกตอาการผิดปกติ หากมีไข้ และอาการทางเดินหายใจ จมูกไม่มีกลิ่น ลิ้นไม่ได้รส ให้รีบไปพบแพทย์ และขอให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หมั่นล้างมือ แยกห้องนอน ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น และใช้แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ”
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2548 หรือตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากนั้น นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษและประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสำรวย เกษกุล นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การดำเนินงาน ปัญหา และอุปสรรค การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเขตพื้นที่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม สร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ อสม. และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจหมู่บ้านที่บ้านดู่ ต.ดู่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
นายวัฒนากล่าวว่า ตนได้ลงนามในประกาศคำสั่งจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 1940/2564 ลงวันที่ 8 พ.ค. 2564 เกี่ยวกับมาตรการควบคุมพื้นที่และการปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ หลังเกิดกลุ่มคลัสเตอร์ขึ้นหลายกลุ่มกระจายไปในหลายพื้นที่อย่างรวดเร็ว และมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งการติดเชื้อได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ซึ่งเป็นอำเภอที่พบผู้ติดเชื้อมากสุดเป็นอันดับ 1 ของ จ.ศรีสะเกษ คลัสเตอร์ที่ 5 นี้มีผู้ติดเชื้อมากถึง 20 รายแล้ว และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวนหลายราย
จึงมีคำสั่งให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคในพื้นที่ อ.กันทรารมย์เป็นการชั่วคราว ได้แก่ ตลาดนัด ตลาดถนนคนเดิน ตั้งแต่วันที่ 9-22 พ.ค.นี้ สำหรับหมู่บ้านดู่ หมู่ที่ 1 และหมู่บ้านหนองยาง หมู่ที่ 5 ต.คู่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่พบผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวนหลายรายนั้น ได้มีคำสั่งห้ามพบปะหรือปฏิสัมพันธ์กับบุคคลในครอบครัวอื่น ห้ามจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และห้ามจัดกิจกรรม สังสรรค์ งานเลี้ยง งานรื่นเริง โดยเด็ดขาด
พร้อมให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน อาสาสมัครในหมู่บ้าน เช่น ชรบ. อสม. อปพร. ดำเนินการตั้งจุดตรวจคัดกรองคนเข้า-ออก หรือการเคลื่อนย้ายคนในพื้นที่ โดยตรวจบุคคล ยานพาหนะที่ผ่านจุดคัดกรอง และจัดทำบัญชีคัดกรองคนเข้าออกหมู่บ้าน โดยเฉพาะใน 2 หมู่บ้านดังกล่าวนี้อย่างเข้มข้น
นพ.อดุลย์ โบจรัส ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกันทรารมย์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำคณะแพทย์ พยาบาล มาทำการตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของคลัสเตอร์ที่ 5 อ.กันทรารมย์ ซึ่งคลัสเตอร์ที่ 5 นี้มาจากพนักงานขายสินค้าออนไลน์ เป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 180 ของ จ.ศรีสะเกษ และติดต่อกันมา โดยรายล่าสุดเป็นพนักงานจัดเก็บรายได้ของสำนักงานเทศบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งได้ไปพบปะสังสรรค์กับผู้ป่วยรายที่ 180 รายที่ 191 และรายที่ 192 ของ จ.ศรีสะเกษ โดยรายนี้ได้จัดเก็บรายได้ จากนั้นได้นำเอาเงินไปส่งที่ธนาคาร ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ของ อ.กันทรารมย์ รวมทั้งได้ไปส่งของที่ไปรษณีย์เป็นประจำ ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ถือว่าเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงมาก จึงได้นำกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมดมาตรวจ
ขอฝากไปถึงผู้ใดที่รู้ตัวว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงและได้ไปทำงานหรือว่าไปติดต่องานอยู่ที่ไปรษณีย์ สำนักงานเทศบาล และธนาคารทั้ง 4 แห่งข้างต้นของ อ.กันทรารมย์ หรือว่าเป็นผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายนี้ ขอให้ไปติดต่อขอตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ที่ รพ.กันทรารมย์ ไม่ควรปล่อยให้เวลาเนิ่นนานไป อีกทั้งหากรู้ตัวว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจะต้องกักตัวใส่หน้ากากอนามัยอยู่เสมอและหมั่นล้างมือให้บ่อยๆ เว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อจะได้เป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ให้มีการแพร่กระจายเชื้อมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกต่อไป