พระนครศรีอยุธยา - สลด! จักรยานยนต์ตัดหน้ารถพ่วงบรรทุกเศษเหล็ก หักหลบทับศาลาผู้โดยสาร ตาย 1 เจ็บ 3 บริเวณถนนสายนครหลวง-ท่าเรือ หมู่ 1 ตำบลโพธิ์เอน อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เย็นวันนี้ (7 พ.ค.) พ.ต.ท.ชุมพล จำสุข รอง ผกก.สอบสวน สถานีตำรวจภูธรปากท่า อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ตัดหน้ารถบรรทุกพ่วงเศษเหล็ก ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บริเวณถนนสายนครหลวง-ท่าเรือ หมู่ 1 ตำบลโพธิ์เอน อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงประสาน กำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา เข้าตรวจสอบและเร่งให้การช่วยเหลือ
ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาวหมายเลขทะเบียนตัวแม่ 70-6624 นนทบุรี พวงลูกหมายเลขทะเบียน 70-6864 นนทบุรี อยู่ในลักษณะตกอยู่ไหล่ทาง ตัวลูกพ่วงฟาดกับศาลาพักผู้โดยจนพลิกตะแคงเศษเหล็กไหลลงมาทับศาลาผู้โดยสารสาร ตรวจสอบใต้ท้องรถบรรทุกพ่วงพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ไม่สามารถระบุหมายเลขทะเบียนได้ถูกทับอยู่ในลักษณะบี้แบน พบผู้เสียชีวิตติดอยู่ใต้ท้องรถช่วงลูกพ่วง 1 ราย
ทราบชื่อต่อมาคือ นายจำลอง แสงพิรุณ อายุ 64 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากใต้ท้องรถอย่างลำบาก ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลท่าเรือ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ซึ่งนั่งอยู่ภายในศาลาพักผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลท่าเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว ด้านหน้ารถบรรทุกพ่วงยังพบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บฉ 3925 อ่าง ถูกชนท้ายจนยุบ
สอบถาม นายมโนสิทธิ์ พูลทรัพย์ อายุ 56 ปีคนขับรถบรรทุกเศษเหล็กกล่าวว่า ตนเองกำลังจะนำเศษเหล็กไปส่งที่จังหวัดสระบุรี โดยขับมาตามถนนดังกล่าว โดยมุ่งหน้าไปทางท่าเรือ กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์ขับส่วนทางมาเลี้ยวตัดหน้ากระชั้นชิดทำให้ตนเองพยายามเบรก แล้วหักหลบแต่ไม่ทันชนรถจักรยานยนต์ แล้วพุ่งชนรถกระบะที่จอดอยู่ริมถนน ส่วนตัวรถยังไถลไปฟาดเข้ากับศาลาพักผู้โดยสารริมทางจนทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บดังกล่าว
ทางด้าน น.ส.อัมพร เคร้าเครือ อายุ 47 ปี กล่าวว่า ตนเอง สามี รวมถึงแม่ไปทำธุระในตัวเมือง จ.พระนครศรีอยุธยา กำลังจะเดินทางกลับ จ.สระบุรี ระหว่างทางเกิดหิวข้าวจึงแวะพักบริเวณศาลาพักผู้โดยสารเพื่อนำข้าวที่ห่อมาด้วยออกมากิน เนื่องจากไม่อยากแวะกินตามร้านอาหารเพราะกลัวโควิด-19 ซึ่งใช้เวลาในการแวะกินข้าวไม่ถึง 10 นาที กระทั่งกินข้าวเสร็จก็มองเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์กำลังเลี้ยวตัดหน้ารถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าว จากนั้นเห็นรถกำลังเสียหลักพุ่งไถลมาทางศาลาพักผู้โดยสารที่ตนเองและครอบครัวนั่งอยู่ แต่วินาทีนั้นทำอะไรไม่ถูก กำลังตกใจ
กระทั่งตัวรถบรรทุกพ่วงฟาดเข้ากับศาลา ทำให้ตนเองและครอบครัวลงไปกองอยู่กับพื้น แม่ และสามีถูกไม้และเศษเหล็กฟาดเข้าที่บริเวณลำตัวและศีรษะได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลท่าเรือ ส่วนตนเองได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยมีรอยฟกช้ำตามลำตัว และถูกเศษเหล็กบาดเพียงเล็กน้อยถือว่ายังโชคดีมากที่ไม่ถูกตัวรถบรรทุกพ่วงทับไม่เช่นนั้นตนเอง และครอบครัวอาจจะไม่รอดก็ได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัวคนขับรถบรรทุกพ่วงมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ที่แท้จริง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป