ศรีสะเกษ - สูญยับ พายุฝนถล่ม 3 อำเภอศรีสะเกษ ทุเรียนภูเขาไฟใกล้สุกร่วงกองเกลื่อนเกษตรกรแสนเสียดาย บ้านเรือนพังยับกว่า 50 หลังเรือน
วันนี้ (6 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงใกล้ค่ำที่ผ่านมาได้เกิดเหตุวาตภัยพายุฝนตกหนักอย่างรุนแรงในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามี 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.กันทรลักษ์ อ.เมือง และ อ.ปรางค์กู่ มีบ้านเรือนของชาวบ้านโดนลมพายุพัดบ้านเรือนพังเสียหายรวมจำนวนประมาณ 43 หลัง ต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มทับบ้านเรือนของชาวบ้าน และต้นไม้ได้โค่นล้มขวางถนนตามเส้นทางหลายสาย เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันตัดต้นไม้ออกจากถนนเพื่อให้รถราทุกชนิดสามารถใช้ในการสัญจรไปมาได้
นายบุญประสงค์กล่าวว่า ที่บ้านซำตารมย์ ต.ตระกาจ อ.กันทรลักษ์ ซึ่งมีการปลูกทุเรียนภูเขาไฟจำนวนมาก ลมพายุได้พัดถล่มสวนทุเรียนภูเขาไฟที่มีผลผลิตลูกทุเรียนจำนวนมาก และผลทุเรียนใกล้สุกเกษตรกรเตรียมนำออกไปขายในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 นี้ ปรากฏว่าพายุฝนที่พัดโหมกระหน่ำอย่างหนักได้ทำให้ลูกทุเรียนภูเขาไฟร่วงหล่นลงมาจากต้นลงมากองอยู่ใต้ต้นทุเรียนจำนวนมาก เกษตรกรเจ้าของสวนทุเรียนต้องพากันเก็บลูกทุเรียนภูเขาไฟมากองรวมกันไว้ด้วยความเสียดายลูกทุเรียนภูเขาไฟที่ร่วงหล่นเสียหายจำนวนมาก สรุปความเสียหายเบื้องต้นชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 33 ครัวเรือน ส่วนการช่วยเหลือนั้นอยู่ในระหว่างการสำรวจของอำเภอร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งจะได้เร่งให้การช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้แล้วยังได้เกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในเขตพื้นที่อำเภอปรางค์กู่ ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรและโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นพบบ้านเรือนชาวบ้านเสียหาย ดังนี้ 1. บ้านหนองแต้ หมู่ที่ 11 ตำบลหนองเชียงทูน อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ บ้านเรือนเสียหาย 9 หลังคาเรือน 2. บ้านหนองตลาด หมู่ที่ 10 ตำบลโพธิ์ศรี อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ บ้านเรือนเสียหาย 1 หลังคาเรือน ซึ่ง นายเทเวศน์ มีศรี นายอำเภอปรางค์กู่ ได้สั่งการให้ปลัดอำเภอ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และผู้นำท้องที่เร่งสำรวจความเสียหาย และแจ้งให้องค์การบริหารส่วนตำบลหนองเชียงทูน และองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ศรี เร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนของชาวบ้านเพื่อให้สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ตามปกติเช่นเดิมอย่างเร่งด่วนต่อไปแล้ว