เชียงใหม่ - รพ.สนามนะไม่ใช่ม่านรูด! สาวป่วยโควิด-19 เชียงใหม่สุดทน โพสต์ทวงถามจิตสำนึกผู้ป่วยนอนร่วมโซนเฉพาะผู้หญิง ลากแฟนหนุ่มที่ป่วยโควิดเหมือนกันมานอนด้วยสวีตหวานแหวว แถมยังพาเพื่อนฝ่ายชายมาด้วย แจ้ง จนท.เข้าตักเตือนแล้วยังไม่เลิก ต้องให้แก้ไขปัญหาเองด้วยการเปลี่ยนมุมนอน
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่เป็นหญิงสาวผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่ โพสต์บอกเล่าเรื่องราวเชิงตัดพ้อและทวงถามหาจิตสำนึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ระหว่างนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนาม ซึ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะสมและอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือแก้ไข
หญิงสาวผู้ป่วยโควิด-19 รายนี้บอกว่า ในโซนที่นอนพักรักษาตัวอยู่นั้นเป็นโซนเฉพาะผู้หญิง แต่ปรากฏว่าผู้ป่วยหญิงบางคนที่นอนรักษาอยู่ในโซนเดียวกันกลับได้ชักชวนและพาเพื่อนชายคนสนิทที่น่าจะเป็นคู่รักที่ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสนามเหมือนกัน มานอนร่วมในโซนของผู้ป่วยหญิง รวมทั้งยังชักชวนเพื่อนของฝ่ายชายที่ป่วยมานอนด้วยอีก ซึ่งสร้างความลำบากใจแก่ผู้ป่วยหญิงคนอื่นๆ อย่างมาก และแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสนามให้ทราบพร้อมแจ้งเตือนแล้ว แต่ทางผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวยังคงเพิกเฉย จนเจ้าหน้าที่ได้แต่บอกว่าให้ผู้ป่วยคนอื่นแก้ปัญหากันเองด้วยการเปลี่ยนมุมนอน
ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวระบุว่า “ช่วยดันหน่อยนะคะ!!! เราเป็นผู้ป่วยที่โรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ เราพักอยู่โซนผู้หญิง ตอนนี้ในโซนเรา นอนรวมกันของคู่รักค่ะ และยังพาเพื่อนแฟนมานอนฝั่งโซนผู้หญิง เราประสานให้ทางทีมโรงพยาบาลสนามช่วยแจ้ง เค้าก็ช่วยประกาศให้เรา แต่คนขาดจิตสำนึกก็ยังคงเมินเฉยต่อประกาศการแยกชายหญิงค่ะ สิ่งที่ทางโรงพยาบาลสนามแจ้งมานั้นวิธีที่ให้เราแก้ไขคือ ให้เราเปลี่ยนมุมนอนเอง อยากรู้ว่ามันคือความผิดของเราเหรอคะ ทำไมต้องให้ทางเราเป็นคนแก้ปัญหาทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นคนละเมิดคะ”
หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวมีการเผยแพร่ไป ปรากฏว่ามีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก พร้อมวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของหญิงสาวและชายหนุ่มคู่รักผู้ป่วยโควิด-19 ดังกล่าวว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง พร้อมทั้งเปรียบเทียบด้วยว่าโรงพยาบาลสนามไม่ใช่โรงแรมม่านรูด ขณะเดียวกันได้ร้องขอให้เจ้าของโพสต์ถ่ายภาพหรือคลิปเป็นหลักฐานนำออกเผยแพร่ด้วย ซึ่งเจ้าของโพสต์แจ้งว่ามีการถ่ายภาพและคลิปไว้ครบ แต่ไม่ได้โพสต์ลงในโซเชียลมีเดียเนื่องจากเกรงว่าจะถูกคู่กรณีดำเนินคดีในเรื่องละเมิดสิทธิและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว บอกว่า เบื้องต้นยังไม่มีการรายงานข้อมูลดังกล่าวให้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ตามจะได้ประสานไปยังโรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด