พระนครศรีอยุธยา - หวิดสลด! รถบัสรับส่งพนักงานพลิกคว่ำบาดเจ็บระนาว โชคดีไม่มีใครเสียชีวิต การจราจรติดขัดชะลอตัวนับกิโลเมตร บริเวณถนนสายอุทัย-ภาชี ขาเข้าอยุธยา
กลางดึกวานนี้ (28 เม.ย.) ร.ต.อ.สุชาติ จำนงบุญ รอง สว.(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบัสพลิกคว่ำ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณถนนสายอุทัย-ภาชี ขาเข้าอยุธยา หลักกิโลเมตรที่ 6 หมู่ที่ 2 ตำบลสามเรือน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใกล้เคียงสะพานข้ามสี่แยกไฟแดงอุทัย จึงตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ เร่งให้การช่วยเหลือ
ในที่เกิดเหตุพบรถบัสรับส่งพนักงาน หมายเลขทะเบียน 30-0830 พระนครศรีอยุธยา สภาพพลิกคว่ำตะแคงขวางถนนอยู่ กระจกหน้าแตกหลุดออกมา ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บหลายราย เจ้าหน้าที่กำลังทยอยนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเพื่อเร่งให้การรักษา
โดยพนักงานที่โดยสารมากับรถ กล่าวว่า รถบัสคันดังกล่าวรับพนักงานที่เลิกงานจากโรงงานแห่งหนึ่งภายในอุตสาหกรรมโรจนะ 2 ตนเองนั่งเล่นโทรศัพท์บนรถ มารู้สึกตัวเหมือนรถสั่นๆ จากนั้นก็พลิกคว่ำแบบไม่ทันตั้งตัว
สอบถาม นาย พิษณุ ผมทอง อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิพุทไธสวรรย์ มาถึงที่เกิดเหตุคนแรกกล่าวว่า รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีรถพลิกคว่ำแต่ยังไม่ทราบว่าเป็นรถอะไร จึงรีบมาที่จุดเกิดเหตุพร้อมกำลัง พอมาถึงพบรถบัสพลิกคว่ำอยู่กระจกหน้าแตก พนักงานออกมาจากรถหมดแล้ว ตรวจสอบพบว่ามีผู้โดยสารมาในรถบัส 10 ราย ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย มีบาดแผลแตก ถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลอุทัย 4 ราย โรงพยาบาลราชธานี โรจนะ 4 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 7 ราย ทั้งหมดอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างปลอดภัย
ด้านคนขับรถบัสรับส่งพนักงานคันดังกล่าวไม่ให้ข้อมูล อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุครั้งนี้คาดว่ารถบัสรับส่งพนักงานคันดังกล่าวขับมาพอมาถึงช่วงแยกตัววายที่จะข้ามขึ้นสะพานข้ามสี่แยกไฟแดง จังหวะนั้นพยายามชิดซ้ายเปลี่ยนเลนเพื่อวิ่งเส้นคู่ขนานด้านล่างปรากฏว่ารถบัสขับคร่อมขึ้นไปบนแบริเออร์กั้นกลาง จนทำให้รถบัสปีนขึ้นไปและพลิกคว่ำดังกล่าว
โดยต้องปิดการจราจร 1 ช่องทางที่มุ่งหน้าไปสี่แยกไฟแดงอุทัย ส่งผลให้การจราจรติดขัดชะลอตัวยาวเป็นกิโลเมตร เจ้าหน้าที่อาสาต้องเร่งอำนวยการจราจรระบายรถ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัวคนขับรถบัสคันดังกล่าวไปทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป โชคดีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครเสียชีวิต