กาญจนบุรี - ผลยิงปะทะระหว่างทหารพม่า กับกำลังไม่ทราบฝ่าย ที่พญาตองซู ทหารพม่าดับ 2 นาย ชนวนเหตุจากยิงกลุ่มผู้ชุมนุมหญิงสาวเจ็บ 1
ความคืบหน้ากรณีทหารพม่ายิงปะทะกับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่บริเวณค่ายทหารพม่า พัน ร.32 ที่ตั้งอยู่กลางเมืองพญาตองซู ติดกับวัดตะมะเฮโว ประเทศพม่า ห่างจากชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ลึกเข้าไปประมาณ 1 กม.เสียงยิงปะทะดังขึ้นประมาณ 15 นาทีจึงสงบ
ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า รวมทั้งเจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.ที่ 134 อ.สังขละบุรี และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านกว่า 20 นาย คอยสังเกตการณ์ที่บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น โดยมี นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี คอยสั่งการด้วยตนเอง มี ร.ต.พรชัย ใครหอม หัวหน้าชุดประสานงานชายแดนไทย-พม่าพื้นที่ 4 บ้านพระเจดีย์สามองค์ คอยรายงาน โดยเหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 22.30 น.ของคืนวันที่ 24 เม.ย.64 ที่ผ่านมา
สำหรับสาเหตุของการยิงปะทะกันระหว่างทหารพม่ากับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายในครั้งนี้ น่าจะมาจากช่วงเวลากลางวันของวันเสาร์ที่ 24 เม.ย.64 ที่ผ่านมา มีการรวมตัวจัดกิจกรรมชุมนุมของกลุ่มชาวกะเหรี่ยง ที่อำเภอพญาตองซู เพื่อประท้วงต่อต้านการรัฐประหารของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ระหว่างจัดกิจกรรมปรากฏว่า กองกำลังทหารพม่าได้ขับรถยนต์ชนกลุ่มผู้ประท้วงที่ขับขี่รถจักรยานยนต์จนได้รับบาดเจ็บ
อีกทั้งยังควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นรถไปด้วย จำนวน 6 คน นอกจากนั้น ทหารพม่ายังได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม เป็นเหตุทำให้ผู้ชุมนุมเป็นหญิงถูกยิงเข้าที่แขนขวาได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นจึงได้พยายามนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่า โรงพยาบาลไม่กล้ารับตัวไปรักษา เนื่องจากเกรงว่าจะถูกทหารพม่าเข้ามาคุกคามภายในโรงพยาบาล ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ประท้วงเกิดความไม่พอใจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการประท้วงเป็นไปด้วยความสงบไม่มีอาวุธแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 เม.ย.) มีกระแสข่าวว่า ผลจากการยิงปะทะกันช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้ทหารพม่าที่อยู่ประจำป้อมรักษาการณ์บริเวณทางเข้าค่ายทหารพม่า กองพันที่ 31 ประจำเมืองพญาตองซู เสียชีวิตคาป้อม จำนวน 2 นาย
โดยก่อนเกิดเหตุมีชาย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาบริเวณถนนหน้าป้อม จากนั้นได้ใช้ระเบิดมือไม่ทราบขนาดขว้างเข้าไปในป้อม เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้นทำให้ทหารพม่าที่อยู่ในค่ายใช้อาวุธปืนนานาชนิดระดมยิงต่อสู้ รวมทั้งใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ยิงใส่จนเสียงดังไปทั่วทั้งเมืองพญาตองซู และได้ยินมาถึงฝั่งไทย
สำหรับบรรยากาศวันนี้ พบว่า ภายในเมืองพญาตองซู เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้านพัก เนื่องจากยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ แต่นานๆ ครั้งจะพบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ออกมาวิ่งบนท้องถนน แต่ก็ไม่กี่คัน
ส่วนบรรยากาศที่ฝั่งไทย พบว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ ได้ออกมาจับกลุ่มกันพูดคุยถึงเหตุการณ์ยิงปะทะที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้หวาดกลัวแต่อย่างใด เนื่องจากคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนี้มานานหลายปี
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ ตชด.ที่ 134 ต่างจับตาเฝ้าระวังสถานการณ์ตามแนวชายแดนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเกิดสถานการณ์บานปลายขึ้น เป็นเหตุทำให้ประชาชนชาวพม่าอพยพข้ามเข้ามาฝั่งไทยก็เป็นไปได้ จึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ตลอดเวลา
