ประจวบคีรีขันธ์ - “อนุทิน” รับปากจัดสรรยาต้านไวรัสโควิด-19 “ฟาวิพิราเวียร์” 5,000 เม็ดให้ รพ.หัวหิน เตรียมพร้อมรักษาผู้ป่วย พร้อมให้กำลังใจผู้ป่วย ชื่นชมทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเต็มที่ พร้อมเผยระบบสาธารณสุขทั่วประเทศสามารถคุมโรคโควิด-19 ได้ดี คาด 2-3 สัปดาห์จะเริ่มลดลง
วันนี้ (22 เม.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานของโรงพยาบาลหัวหิน ในการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อ และรักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 พร้อมให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ รับฟังปัญหาเพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยมี นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ นายแพทย์นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวหิน ทีมแพทย์ พยาบาล ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องร่วมต้อนรับ
พร้อมกันนี้ ได้ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม ซึ่งได้ปรับพื้นที่ภายในโรงพยาบาลหัวหิน และโรงเรียนพณิชยการหัวหิน ซึ่งตั้งอยู่ติดกันเป็นโรงพยาบาลนาม รวมทั้งยังมีโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ขณะนี้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีจำนวนผู้ป่วยสะสมโควิด-19 จากคลัสเตอร์สถานบันเทิงในอำเภอหัวหิน จำนวนทั้งสิ้น 897 ราย อยู่ระหว่างรักษา 784 ราย ส่วนใหญ่รักษาตัวในอำเภอหัวหิน จำนวนทั้งสิ้น 636 ราย
ในจำนวนนี้มีอาการรุนแรง 14 ราย ขณะที่เตียงยังสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีกกว่า 300 เตียง ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มลดลง เหลือวันละไม่เกิน 50 ราย ล่าสุด มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้วันละ 30-50 ราย โรงพยาบาลสนามที่รับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ของอำเภอหัวหิน มีความพร้อมในทุกด้าน มีเตียง ห้องน้ำแยกชายหญิงเพียงพอ รวมทั้งมีระบบเครื่องปรับอากาศ กล้องวงจรปิดเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตนเองและคณะผู้บริหารในกระทรวงสาธารณสุขได้ลงมาติดตามให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล และบุคลากรที่อำเภอหัวหิน ซึ่งเป็นจุดที่รับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 หลักของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่า มีความพร้อมทั้งสถานที่ และบุคลากรทุกภาคส่วน วันนี้ได้นำหน้ากากอนามัย ชุด PPE เจลล้างมือ ตู้อบฆ่าเชื้อ เวชภัณฑ์ต่างๆ มามอบให้
รวมทั้งได้นำยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) มามอบให้บางส่วน โดยที่โรงพยาบาลหัวหิน ยังมียาต้านฟาวิพิราเวียร์ เพียงพอต่อผู้ป่วย แต่ทางทีมแพทย์ พยาบาลได้แจ้งว่า จากจำนวนผู้ป่วยที่มีจำนวนมาก และบางครั้งผู้ป่วยต้องได้รับยาปริมาณมากน้อยต่างกัน การเตรียมสต๊อกยาให้เพียงพอจึงเป็นเรื่องสำคัญ รวมทั้งขณะนี้สถานการณ์ตัวเลขผู้ป่วยขณะนี้ยังไม่คงที่ จึงอยากให้มียาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์อยู่ในสต๊อกที่ 5,000 เม็ด เพื่อที่จะสามารถกระจายให้ผู้ป่วยในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ทันที ซึ่งได้รับปากว่าจะจัดสรรมาให้
ทั้งนี้ ยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์จะทยอยนำเข้ามาเรื่อยๆ โดยภายในสัปดาห์นี้ประมาณวันที่ 26 เมษายน ยาฟาวิพิราเวียร์จะมาถึงประเทศไทยอีก 2 ล้านเม็ด จากนั้นจะกระจายไปตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ และจะทยอยสั่งซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อให้สต๊อกยาอยู่ในระดับที่ 2 ล้านเม็ด
ขณะนี้ระบบสาธารณสุขทั่วประเทศสามารถคุมสถานการณ์ได้ วงจรของการระบาดระลอกนี้เริ่มชะลอตัวลง มีจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยลง วงรอบการระบาดเริ่มเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 -3 รวมทั้งมีมาตรการของทาง ศบค. ในการปิดสถานที่เสี่ยง ตัวเลขน่าจะลดลง สถานการณ์น่าจะดีขึ้นภายในประมาณ 2 สัปดาห์
ในส่วนของวัคซีนหลักที่จะมากระจายได้ทั่วประเทศ จะเริ่มเข้ามาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน แต่วัคซีนที่เข้ามาในช่วงนี้จะฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ก่อน ซึ่งพบว่าที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลหัวหิน บุคลการทางแพทย์ เจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีนไปครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ถือว่ามีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจให้บุคลากรทางการแพทย์ ทีมสาธารณสุข ยอมรับว่าวัคซีนที่ได้มาไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อ แต่มั่นใจได้ว่าพวกเขาจะไม่เป็นอันตราย ไม่มีอาการรุนแรงและเสียชีวิต แต่พวกเขายังจะทำงานตรงนี้อยู่เป็นเรื่องที่ต้องให้กำลังใจกัน