บุรีรัมย์ - ทสจ.บุรีรัมย์ส่ง จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.เข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรม “หลวงปู่องค์ดำ” หากพบสร้างในที่ป่าสงวนฯ หรือไม่ได้ขอใช้พื้นที่อย่างถูกต้องตามขั้นตอน ต้องแจ้งความเอาผิดตาม กม.ฐานบุกรุกที่ป่าสงวนฯ ขอเวลาตรวจสอบให้ชัดว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนจริงหรือไม่
วันนี้ (20 เม.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่ชายอ้างตัวเป็นหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล หรือหลวงปู่องค์ดำ ที่นุ่งห่มผ้าคล้ายจีวรเหมือนพระแต่เป็นสีดำ อยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมหินเพิง ตั้งอยู่บนบริเวณป่าท้ายหมู่บ้านเขาย้อยพัฒนา ม.16 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งหลังจากมีหญิงสาวชาวจังหวัดชัยภูมิ ได้เข้าแจ้งความในพื้นที่ชัยภูมิว่า มารดาซึ่งมีอาชีพเป็นข้าราชการครูหนีมาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว เกรงว่าแม่จะถูกหลอกเพราะเงินเดือนแม่เกือบ 1 แสนบาทไม่เหลือ ถึงขั้นสร้างสำนักไว้หลังบ้านที่ จ.ชัยภูมิด้วย จนนำไปสู่การตรวจสอบว่า หลวงปู่พุทธะ หรือหลวงปู่องค์ดำตามที่ลูกศิษย์หรือชาวบ้านที่ศรัทธาเรียก เชื่อมโยงกับลัทธิใดหรือมีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมตามที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่ และพื้นที่ที่ตั้งสำนักปฏิบัติธรรมหรือที่พักสงฆ์ดังกล่าวถูกต้องหรือไม่นั้น
ล่าสุด นายสุรชัย แสงศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.บุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.1 (ปะคำ) ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณสำนักปฏิบัติธรรมหรือที่พักสงฆ์ของหลวงปู่พุทธะ หรือหลวงปู่องค์ดำ ว่าตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ เพราะจากข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของ ส.ป.ก. ดังนั้นต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ประเภทใด แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจริง และไม่มีการขออนุญาตใช้พื้นที่อย่างถูกต้องตามขั้นตอน ต้องแจ้งความเอาผิดตามกฎหมายเพราะถือเป็นการบุกรุกป่าสงวนฯ
ส่วนสิ่งปลูกสร้างที่สร้างในบริเวณดังกล่าวโดยไม่ถูกต้องต้องทำการรื้อทำลายตามกระบวนการ อย่างไรก็ตาม ขอเวลาตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนอีกครั้งเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย