หนองบัวลำภู - “พระมหาไพรวัลย์” ลุยถึงที่พักสงฆ์ภูหินกอง บอกกับลูกศิษย์พระธรรมกรรู้สึกเสียใจกับความเชื่อตัดหัวถวายเป็นพุทธบูชา เตือนคัมภีร์อนาคตวงศ์ที่พระธรรมกรท่านเข้าใจ มันไม่ใช่คำสอนในพระไตรปิฎก ย้ำพระพุทธเจ้าไม่ทรงสอนให้บูชายัญ แต่ทรงสอนให้ดับทุกข์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวันนี้ (19 เม.ย. 64) ณ ที่พักสงฆ์ภูหินกอง บ้านนาแค ต.ลำภู อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ วัดสร้อยทอง กรุงเทพฯ ได้ลงพื้นที่พูดคุยสอบถามกับลูกศิษย์ของอดีตพระธรรมกรเพื่อให้ปัญญาและแสดงธรรม หลังอดีตพระธรรมกรตัดสินใจตัดคอตัวเอง อ้างว่าเพื่อเป็นพุทธบูชา โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวมาสังเกตการณ์จำนวนมาก
ทั้งนี้ ลูกศิษย์อดีตพระธรรมกร 2 ท่านเล่าพ้องกันว่า การตัดคอเพื่อถวายเป็นพุทธบูชานี้เชื่อว่าหากทำแล้วหลวงปู่จะสร้างบารมีได้ ขณะเกิดเหตุหรือช่วงที่พระธรรมกรทำพิธีนั้นตนอยู่ด้านหน้าของเจดีย์ หลังเสร็จพิธีตัดหัวก็เดินมาดูและก็เดินเข้าครัวไป เรื่องที่เกิดขึ้นหลวงปู่สั่งไว้แล้ว ถึงวันนี้ตนก็ยังเชื่อคำสั่งสอนของพระธรรมกร สิ่งที่ท่านทำลงไปลูกศิษย์ทุกคนเชื่อว่าเป็นการสร้างบารมี
“ลูกศิษย์ทุกคนยืนยันยังเชื่อคำสอนของหลวงปู่พระธรรมกร ถึงจะมีคนบอกว่าการกระทำนี้เป็นบาปเราก็จะเชื่อ แต่เหตุการณ์นี้คงไม่มีลูกศิษย์ท่านใดปฏิบัติตามเพื่อสร้างบารมี” ลูกศิษย์พระธรรมกรบอก
ด้านพระมหาไพรวัลย์บอกกับลูกศิษย์ว่า รู้สึกเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น แต่อยากเตือนว่าคัมภีร์อนาคตวงศ์ที่หลวงปู่ท่านเข้าใจมันไม่ใช่คำสอนในพระไตรปิฎก มันอยู่ในคัมภีร์อนาคตวงศ์ซึ่งเขียนหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน 1,700 ปี เรื่องการบำเพ็ญบารมีโดยการตัดศีรษะเรื่องนี้ต้องระวังให้มาก เพราะศาสนาพุทธต่างจากศาสนาอื่นตรงที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงสอนให้เราบูชายัญ
“หากพระพุทธเจ้ายินดีที่จะได้หัวคนอื่นเป็นพุทธบูชา พระพุทธเจ้าก็ไม่ต่างจากเทพเจ้าที่ต้องการหัวหมู หัวแพะ หัวแกะ มันไม่ต่างกัน เรื่องการฆ่าตัวเองฆ่าสัตว์หากใครศึกษาศาสนาพุทธจะรู้ว่ามันเป็นบาป จะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของลูกศิษย์” พระมหาไพรวัลย์เทศนา และบอกอีกว่า
ทั้งนี้ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ เคยเขียนวิจารณ์ไว้ว่า การตัดศีรษะ การเอาเลือดถวายเป็นพุทธบูชาก็ดี เป็นการกระทำของคนไม่ฉลาด เสียจริต ไม่ควรจะถือว่าเป็นการกระทำที่เป็นบุญกุศลทางศาสนา ซึ่งอาตมาก็เคยวิจารณ์ไว้ชัดเจน คนพวกนี้ไม่ฟังเลย เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจให้แก่ผู้ที่เชื่อ “ความศรัทธานั้นไม่ได้สร้างภายในวันเดียว”
พระธรรมกรและลูกศิษย์อยู่ด้วยกันมานานหลายปี ฉะนั้นอะไรที่ถูกปลูกฝังจนเข้าใจว่าสิ่งนี้สิ่งนั้นคือความถูกต้องไม่ใช่ว่าวันเดียวจะสอนได้เลย กรณีนี้อาตมาอยากให้สังคมใช้วิจารณญาณและเรียนรู้เป็นกรณีศึกษา
กรณีนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก หากคนชื่อเรื่อง “คัมภีร์อนาคตวงศ์” อยากจะบำเพ็ญบารมี การเป็นพระนั้นเป็นอุดมเพศแล้ว เพราะศาสนาพุทธมีที่ไปอันเดียวกันคือการดับทุกข์ ต่อให้เจริญเป็นพระโพธิสัตว์เป็นพระพุทธเจ้า เป็นพระศรีอริยเมตไตรย์ ทุกคนได้อย่างเดียวกัน ธรรมะอย่างเดียวกันคือการดับทุกข์
ไม่ว่าจะพระหรือโยมสุดท้ายปลายทางคือการดับทุกข์ ทำไมจะต้องใช้วิธีแบบนี้ ทำไมจะต้องบูชายัญ เพื่อที่จะไปสู่เป้าหมาย ซึ่งอยู่อย่างนี้ก็สามารถทำได้ปฏิบัติได้
หากยังไม่พอใจการปฏิบัติธรรมแบบนี้มันไม่ใช่สิ่งที่ปรารถนา แล้วคุณจะไปต้องการอะไร เพราะสิ่งที่ทำอยู่ก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้า