เชียงใหม่ - นักศึกษาสาว มช.โพสต์โวย สสจ.เชียงใหม่ โทร.แจ้งผลติดเชื้อโควิด-19 ต้องถูกส่งตัวเข้ารักษาที่ รพ.ลำปาง ก่อนต่อมาตรวจสอบผลยืนยันแท้ที่จริงไม่ติดเชื้อ ทั้งที่นอนรักษาร่วมห้องคนป่วยจริงไป 2 คืนแล้ว ทวงถามความรับผิดชอบและความน่าเชื่อถือ
วันนี้ (14 เม.ย. 64) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นนักศึกษาหญิงคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวและทวงถามความรับผิดชอบกรณีได้รับแจ้งผลการตรวจทางโทรศัพท์ว่าติดเชื้อโควิด-19 และต้องถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ก่อนที่ต่อมาตรวจสอบผลตรวจพบว่าที่จริงแล้วไม่ติดเชื้อ โดยกรณีนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นักศึกษาหญิงรายนี้เป็นผู้เสี่ยงสัมผัสโควิด-19 หลังจากเดินทางไปจังหวัดขอนแก่นด้วยเครื่องบินในวันที่ 1 เม.ย. 64 แล้วกลับมาเชียงใหม่ด้วยเครื่องบินในวันที่ 6 เม.ย. 64 จากนั้นวันที่ 7 เม.ย. 64 ไปกรุงเทพฯ และกลับเชียงใหม่ในวันเดียวกันด้วยเครื่องบิน แล้วเช้าวันที่ 8 เม.ย. 64 ไปตรวจเชื้อแต่ไม่ได้ตรวจเพราะคิวยาว ก่อนที่ในวันที่ 9 เม.ย. 64 จะได้รับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลประสาท จังหวัดเชียงใหม่ แล้วกลับบ้านที่จังหวัดลำปาง และวันที่ 10 เม.ย. 64 ได้รับแจ้งผลทางโทรศัพท์ว่าติดเชื้อโควิด-19 พร้อมมีการประสานรถพยาบาลจากโรงพยาบาลลำปางเข้ารับการรักษาร่วมกับผู้ป่วยอีกราย แต่ต่อมาคืนวันที่ 12 เม.ย. 64 ตรวจสอบผลการตรวจเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 64 ของตัวเองปรากฏว่าไม่ติดเชื้อ และวันที่ 13 เม.ย. 64 ตรวจผลอย่างเป็นทางการยืนยันว่าไม่ติดเชื้อ ซึ่งทำให้นักศึกษาหญิงรายนี้รู้สึกได้รับความเสียหายอย่างมากและทวงถามหาความรับผิดชอบจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โดยโพสต์ดังกล่าวมีผู้แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์และแชร์ต่อจำนวนมาก
ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าวระบุว่า “**รบกวนทุกท่านช่วยแชร์เรื่องนี้ให้หนูด้วยค่ะ**สวัสดีค่ะ เราเป็นเจ้าของโพสต์ที่เปิดเผย ทล.ที่ไปเที่ยวขอนแก่นนะคะ ผลสรุปจริงๆ แล้ว "เราไม่ได้ติดเชื้อ" ค่ะ เคสของหนูเกิดจากการทำงานผิดพลาดของสาธารณสุขเชียงใหม่ ที่บอกผลหนูผิด ว่าหนูติดเชื้อ COVID-19 และประสานงานผิดพลาดกับ รพ.ลำปาง เอกสารยืนยันอะไรไม่มี แล้วรับหนูเข้ารับการรักษาได้อย่างไร หนูต้องมานอน รพ.3 คืน และจากที่ไม่เสี่ยงไม่มีเชื้อ กลายเป็นคนที่มีความเสี่ยงสูงกว่าเดิม เพราะได้พักรักษาตัวร่วมห้องกับผู้ติดโควิด **** ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ แต่ต้องมีการแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ *** หนูจะมาไล่ ทล.ให้ค่ะ
9 เมษา-11.00 ตรวจ swab ที่ รพ.ประสาท เชียงใหม่ แล้วกลับบ้านที่ลำปาง
10 เมษา-10.30 มีเจ้าหน้าที่จาก สสจ.เชียงใหม่ โทร.แจ้งว่าผลเป็นบวก (ติดเชื้อ) จะทำเรื่องประสานงานกับ รพ.ลำปางให้ (09-8102-3422)
- 14.00 มีเบอร์จาก รพ.ลำปางโทร.มา รับเรื่องมาจากสาธารณสุขเชียงใหม่ จะมารับตัวเข้ารับการรักษา ส่วนตัวคิดว่าทั้ง 2 หน่วยงานต้องประสานงาน มีเอกสารยืนยันว่าหนูติดเชื้อจริงเพื่อเข้ารับการรักษา
11 เมษา-นอน รพ. และมีผู้ป่วยโควิดมารักษาในห้องเดียวกัน 1 คน
12 เมษา-22.20 พยาบาลโทร.ถามว่ามีใบเอกสารยืนยันไหมว่าเป็น ซึ่งเราไม่มี เข้าใจว่าทั้ง 2 หน่วยงานประสานกัน และต้องมีเอกสารก่อนรับเราเข้าแล้ว งงมาก ตัวเราเลยประสานงานกับทางคณะบริหารธุรกิจให้ช่วยตามเรื่องให้
- 22.35 เปิดผลตรวจทางออนไลน์ของเว็บ พบว่า 'ไม่ติดเชื้อ'
- 23.50 แยกหนูมานอนอีกห้องก่อน เพราะก็คงไม่แน่ใจผลมั้งคะ งงกันไปหมด สรุปติดหรือไม่ติด
13 เมษา-08.00 รพ.ลำปางเลยทำการตรวจเชื้อใหม่รอบ 2
- 08.40 สสจ.เชียงใหม่โทร.มาถามว่าอยู่ไหน รพ.อะไร แจ้งว่าผลคือไม่ติดเชื้อ (09-8102-6706) แล้วจะประสานงานให้อีกที ขอเบอร์ต้นทาง คนแรกที่โทร.หาหนูไป หลังจากนั้นเขาก็ไม่ติดต่อกลับมา ว่าสรุปยังไง
- 12.00 คณะบริหารธุรกิจโทร.มาบอกว่า มหาวิทยาลัยติดต่อให้แล้ว ทราบว่าผลไม่ติดเชื้อ
- 12.30 โทร.ขอใบยืนยันผลจาก สสจ.(09-5205-3408)
- 13.00 สสจ.เชียงใหม่ส่งเอกสารยืนยันมาทางอีเมล ผลคือ ไม่ติดเชื้อ
- 15.00 ทาง รพ.ลำปางยืนยันผลรอบ 2 ว่า ไม่ติดเชื้อ
เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความเสียหายหลายอย่างในวงกว้าง ทุกคนหวาดกลัว ร้านทุกร้านต้องปิด จ้างทำความสะอาด และบางคนก็เสียเงินเพื่อไปตรวจเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าว่าร้านค้าตนเองปลอดภัย และทำให้หนูจากคนที่ 'ปลอดเชื้อ' กลายเป็น 'คนเสี่ยงสูง' รวมถึงสภาพจิตใจที่แย่มาก ทั้งคนที่ด่า และการทำงานที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงของหน่วยงาน แบบนี้จะรับผิดชอบยังไงคะ เรื่องแบบนี้ไม่สมควรเกิดขึ้นกับใครทั้งนั้นค่ะ
เข้าใจนะคะว่าต้องตรวจกลุ่มเสี่ยงที่เข้ามาตรวจเป็นจำนวนมาก แต่ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบควรมีความรับผิดชอบ, ความรอบคอบให้มากกว่านี้ไหม มันเป็นเรื่องใหญ่นะคะ เข้าใจว่าทางบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ทำงานกันหนักมาก เห็นใจค่ะ แต่เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครจริงๆ ค่ะ มาแชร์ไว้ให้เป็นอุทาหรณ์ค่ะ
ฝากคำถามไว้นะคะ
1. ตรวจผิดไปแล้วกี่ราย?
2. สสจ.จะตรวจสอบใหม่ได้ทั้งหมดได้อย่างไร?
3. จะเยียวยายังไงสำหรับการที่เอาคนปลอดเชื้อไปรวมกับผู้ติดเชื้อ กลายเป็นความเสี่ยงสูง?
4. มีคนติดจริงๆ แต่แจ้งผลว่าไม่ติดไหม?
ถ้ามีแสดงว่าคนเหล่านี้ยังใช้ชีวิตปกติโดยไม่รู้ตัว ถ้าเกิด cluster อีกความผิดใคร
เข้าใจนะคะ คนตรวจเยอะหลักหลายพัน แต่เรื่องแบบนี้มันไม่ควรพลาดไหมคะ คือไม่มีการ recheck ก่อนจะทำการแจ้งผู้เข้ารับการตรวจเหรอคะ
ขอโทษที่ทำให้ทุกคนตกใจมากๆ ค่ะ ตัวเราเองตกใจกว่า ตอนรู้ว่าไม่ติดเชื้อ แต่ตอนแรกที่โทร.มาบอกว่าติดโควิด เรารับผิดชอบต่อสังคม เปิดเผย ทล.ทุกอย่าง กลัวว่าคนที่ใกล้ชิด/ไปสถานที่เดียวกันจะติด ก็อยากให้ self-monitoring กันไป เข้าใจค่ะว่าทุกคนแพนิก และก็ขอบคุณมากๆ จากใจจริงค่ะสำหรับคนที่เข้าใจเราตอนเปิด ทล. ขอบคุณจริงๆๆ ค่ะ
แต่ยังไงก็ตาม ในสถานการณ์แบบนี้ทุกคนก็ต้องดูแลตัวเองกันต่อไปค่ะ ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ
ปล.รูปเอกสารได้รับอนุญาตให้เผยแพร่แล้วค่ะ เราเสียหายทุกทาง ยังไงช่วยเรารีหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ”
ขณะที่จากการสอบถามทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นนั้น เบื้องต้นบอกว่าทราบเรื่องแล้ว และทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมประชุมหารือตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด พร้อมทั้งจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป