เพชรบูรณ์ - ผู้คนชื่นชมกันทั่ว..นายดาบตำรวจ-พ่อค้าแม่ค้าหล่มสักลงขันกันคนละเล็กละน้อยเป็นค่าอาหาร-ตั๋วรถ ช่วยพ่อแม่ลูกรวม 6 ชีวิตเดินทางจากอุตรดิตถ์ต่อรถเป็นทอดๆ ไปโคราช ถึงเพชรบูรณ์เหลือเงินร้อยเดียวไม่พอไปต่อ
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความว่า “วันที่ 12 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 3 ทุ่ม พบพ่อแม่ลูก 6 คนเดินทางมาจากต่างจังหวัดผ่านมาทางหล่มสัก เพื่อจะเดินทางต่อไปยังโคราช แต่ไม่มีเงินค่ารถโดยสารไปต่อ แต่โชคดีที่มาเจอคนหล่มสักใจดีมีน้ำใจ ได้รับการช่วยเหลือจากแม่ค้าขายอาหารหน้า สภ.หล่มสัก โดยการนำของ ด.ต.พีระพัฒน์ น้อยแก้ว ได้ช่วยประสานให้การช่วยเหลือเรื่องอาหารและเงินค่ารถโดยสารเพื่อเดินทางกลับบ้าน
..ขอชื่นชมความมีน้ำใจของตำรวจ สภ.หล่มสักและแม่ค้าขายอาหารที่ช่วยอนุเคราะห์ให้ครอบครัวนี้ได้อิ่มท้องทำอาหารให้กินฟรีๆ ทั้ง 6 คน..ในฐานะที่ตัวเองรู้เห็นเหตุการณ์ด้วยก็ได้ช่วยสมทบทุนให้การช่วยเหลือเรื่องค่าเดินทาง ถึงแม้จะเป็นเงินหลักร้อยแต่มันคือน้ำใจ” หลังจากนั้นได้มีการแชร์และมีคนเข้ามาชื่นชมเป็นจำนวนมาก
จากการตรวจสอบพบร้านอาหารที่ทำอาหารเลี้ยงพ่อ แม่ ลูกทั้ง 6 คนนั้นเป็นร้านอาหารตามสั่งตั้งอยู่ติดกับศูนย์จราจร สภ.หล่มสัก ใกล้กับท่ารถโดยสารประจำทางในตัวเมืองหล่มสัก ซึ่งนางสาวถาวร พุทธองค์ อายุ 46 ปี เจ้าของร้านเปิดเผยว่า ตนเปิดร้านขายอาหารตามสั่งตั้งแต่ 07.00-24.00 น.ทุกๆ วันมานานแล้ว
และในวันดังกล่าวเวลาประมาณ 3 ทุ่มได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มสักพาสามีภรรยาพร้อมด้วยลูกๆ รวมเป็น 6 คนมาที่ร้าน แล้วบอกว่าเป็นครอบครัวที่ตกรถ ไม่มีเงินค่ารถกลับบ้าน แล้วบอกให้ตนทำอาหารให้ตนจึงทำข้าวผัดให้สำหรับเด็กคนละจาน และทำกะเพราราดข้าวให้ผู้ใหญ่ 2 จาน
เมื่อกินเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจ่ายเงินค่าข้าวให้แต่ตนไม่รับ เพราะสงสารและถือว่าเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่กำลังลำบาก แต่ตนก็ไม่ได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัวดังกล่าวเพราะมัวแต่ขายอาหารเนื่องจากขณะนั้นมีลูกค้ามาซื้อหลายคน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาก็เคยมีคนมาขอกินข้าวฟรีเนื่องจากไม่มีเงิน ซึ่งตนก็ให้กินฟรีเพราะถือว่าเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่ก็นานๆ จะมีมาสักครั้ง
ด้าน ด.ต.พีระพัฒน์ น้อยแก้ว อายุ 51 ปี ผบ.หมู่ทำหน้าที่งานสืบสวน ขณะปฏิบัติหน้าที่สิบเวร สภ.หล่มสัก เปิดเผยว่า ตอนนั้นตนออกมากินข้าวที่ร้านดังกล่าว ซึ่งอยู่ด้านหน้า สภ.หล่มสัก เมื่อกินเสร็จก็จะเดินกลับไปที่ สภ.เพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อ แต่เห็นครอบครัวหนึ่งซึ่งมีลูกมาด้วยอยู่ด้านหน้า สภ.โดยผู้เป็นพ่อมีท่าทางกังวลและเดินไปเดินมา
เมื่อเข้าไปถามว่ามาติดต่อเรื่องอะไร ชายคนดังกล่าวจึงบอกว่าเดินทางมาจากอุตรดิตถ์เพื่อที่จะไปหาญาติที่นครราชสีมา โดยได้นั่งรถมาลงที่พิษณุโลกและต่อรถมาลงที่หล่มสักเพื่อจะต่อรถไปที่ลำนารายณ์ จ.ลพบุรี และหารถต่อไปที่ จ.นครราชสีมา แต่เมื่อมาถึงที่หล่มสักปรากฏว่ามีเงินเหลือติดตัวเพียง 100 บาท ไม่พอค่ารถไปลพบุรีจึงไม่รู้จะทำอย่างไรอีกทั้งก็ยังไม่ได้กินข้าวเย็นกันเลย
“สังเกตพฤติกรรมแล้วเชื่อว่าไม่ใช่พวกมิจฉาชีพแน่นอน จึงพาไปที่ร้านอาหารตามสั่งเพื่อที่จะสั่งอาหารให้กินและตั้งใจจะเป็นผู้จ่ายค่าอาหารเอง แต่เมื่อได้เล่าเรื่องราวให้เจ้าของร้านฟังแล้วปรากฏว่าเจ้าของร้านไม่คิดเงินเพราะเกิดความสงสาร นอกจากนั้นบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ใกล้เคียงเมื่อทราบเรื่องก็ช่วยกันบริจาคเงินคนละเล็กละน้อย จากนั้นผมก็นำไปซื้อตั๋วรถ และยังมีเงินเหลือสำหรับติดตัวไว้ใช้จ่ายอีกประมาณ 300 บาท”
ด.ต.พีระพัฒน์เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาขณะที่ตนปฏิบัติหน้าที่สิบเวรและฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็จะมีผู้ที่มาขอความช่วยเหลืออยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะไม่มีเงินกินข้าวบ้าง ตกรถบ้าง ซึ่งตนและแม่ค้าแถวนั้นก็จะช่วยกันให้การช่วยเหลือ แต่จะไม่ให้เป็นตัวเงิน ส่วนมากจะซื้อข้าวให้กินรวมทั้งซื้อตั๋วให้ เป็นต้น